เขมรหรือกัมพูชา นับเป็นประเทศที่เรียกได้ว่า คือต้นตำรับของคุณไสยมนต์ดำเลยก็ว่าได้ ว่ากันว่าของเขมรนั้นแรงที่สุดในโลก จนของขลังชาวไทยดูเบาไปเลย เพราะเวลาที่ผู้มีอาคมชาวเขมรจะปลุกเสกสิ่งใด มักจะสร้างขึ้นมาด้วยจิตใจแน่วแน่อย่างน่ากลัว โดยของเขมรที่ขึ้นชื่อว่า ทั้งแรงและอันตรายที่สุดในโลกนั้น ต้องขอยกให้ เทวรูปกินคน
ความน่ากลัวของ เทวรูปกินคน

เชื่อกันว่าเทวรูปกินคนนั้น เป็นของขลังสายมืดที่ผู้มีวิชาอาคมสร้างขึ้น เพื่อใช้ในการกำจัดศัตรู ซึ่งอาหารของเทวรูปกินคนก็คือคนนั่นเอง โดยเทวรูปกินคนจะกลายร่างเป็นปีศาจร้ายในตอนกลางคืนและออกหาเหยื่อที่จิตอ่อนหรือเป็นเพียงคนธรรมดาไม่มีวิชาอาคมแกร่งกล้า ถ้าหากใครได้จ้องตากับเทวรูปกินคน จะไม่มีทางรอดไปได้ โดยเรื่องเล่าที่โด่งดังที่สุดของเทวรูปกินคน กล่าวถึงชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใช้เงินเก็บทั้งชีวิตของตัวเองซื้อที่แห่งหนึ่ง เพราะต้องการปลูกผลไม้ขาย เขารู้สึกโชคดีมากที่ได้ที่ดินผืนใหญ่มาในราคาถูก แต่ในขณะที่เขากำลังขุดดินอยู่นั้น ก็ได้ไปเจอเข้ากับของบางอย่างที่ถูกฝังไว้ใต้ดิน ทีแรกเขาคิดว่าอาจเป็นวัตถุโบราณและอาจนำไปขายได้ จึงนำมันขึ้นมา แต่ปรากฏว่าสิ่งนั้นคือ เทวรูปกินคน ที่มีหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ผิดแปลกไปจากเทวรูปที่เคยเห็น เหมือนปีศาจยักษ์หน้าตาอัปลักษณ์ ตัวสีดำ เพศชาย หัวล้านมีเขี้ยวเล็บแหลมคม แสยะยิ้มกว้างน่าสยดสยอง ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเทวรูปตนนั้นมีเลือดติดอยู่ที่ปากด้วย ชายหนุ่มจึงรีบวิ่งนำไปมอบให้พระที่วัดจัดการ เมื่อหลวงพ่อเห็นก็ตัวสั่น เรียกรวมพระสงฆ์ทั้งหมดในวัดมาสวดทำพิธีเป็นภาษาเขมร เมื่อเสร็จพิธีแล้วหลวงพ่อก็ได้เล่าให้ชายหนุ่มฟังว่า นี่คือเทวรูปกินคนที่ถูกสร้างขึ้นมาหลาย ร้อยปีและได้หายสาบสูญไปกว่า 10 ปีแล้ว เหมือนจะมีผู้ปิดผนึกมันไว้ แต่ชายหนุ่มได้บังเอิญไปขุดมันขึ้นมาเปรียบเสมือนการชุบชีวิตให้มัน ตอนนี้ทำได้แค่สะกดมันเอาไว้แต่ในตอนกลางคืนมันจะออกมาล่าเหยื่อ หลวงพ่อได้มอบยันต์ให้กับชายหนุ่มและกำชับว่า นี่เป็นยันต์ที่ทำให้เทวรูปกินคนมองไม่เห็นเขา แต่อย่าได้ชะล่าใจ ในตอนกลางคืนให้ซ่อนตัวไว้ห้ามออกมาเด็ดขาด ซึ่งในตอนกลางคืนชายหนุ่มก็ได้ยินเสียงโหยหวนดังมาจากหน้าบ้านจริงๆ และเขาก็ไม่สามารถทนความสงสัยของตัวเองไหวเปิดประตูออกไปดู สิ่งที่เขาเห็น คือ ยักษ์ตัวใหญ่เท่าต้นสน รูปลักษณ์ของมันเหมือนกับเทวรูปกินคน เมื่อยักษ์ตนนั้นได้หันมองมาที่เขา ชายหนุ่มก็รีบปิดประตูคลุมโปงซ่อนตัวจนถึงเช้า วันต่อมา ชายหนุ่มได้กลับไปที่วัดก็พบว่า หลวงพ่อและผู้คนจำนวนมากในหมู่บ้านได้ตายเสียแล้ว ส่วนพระสงฆ์ที่เหลืออยู่ก็ได้ไปเชิญหมอผีเขมรมาจัดการปิดผนึกเทวรูปกินคนอีกครั้ง แต่ก่อนที่หมอผีเขมรจะมาถึงในคืนต่อมา พระสงฆ์ก็ได้พบกับศพของชายหนุ่มที่มีสภาพไม่ต่างกับถูกปอบกินเช่นเดียวกับคนอื่นๆที่ตายในหมู่บ้าน

ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบว่า เทวรูปกินคนนั้นอยู่ที่ใดกันแน่ แต่มีหลายคนที่ยืนยันว่า เทวรูปกินคนมีตัวตนอยู่จริง อย่างไรก็ดี เรื่องทั้งหมดยังคงเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลเท่านั้น ไม่มีหลักฐานพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกับคนในหมู่บ้านนั้น เกิดจากเทวรูปกินคนจริงๆหรือเป็นโศกนาฏกรรมอย่างอื่นกันแน่

อัพเดทสาระดีๆทุกวันต่อได้ที่ The7days