ถ้ำนาคา เป็นปติมากรรมที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมาได้อย่างงดงามแปลกตา เนื่องจากบริเวณถ้ำนาคานั้น มีก้อนหินเรียงตัวกันเป็นชั้นๆเหมือนงูยักษ์นอนขดตัวอยู่ อีกทั้งยังมีลายหินแตกคล้ายเกล็ดงู เต็มไปด้วยมอสสีเขียวเหมือนสีของพญานาค ทั้งยังมีหินลักษณะคล้ายหัวงูยักษ์มีตา จมูก ปากครบ อยู่ในจุดไม่ไกลถ้ำนาคามาก ด้วยความแปลกประหลาดนี้ทำให้ชาวบ้านต่างเล่าลือผูกโยงกับ ตำนาน พญานาคที่เคยได้ยินมา
ตำนาน ถ้ำนาคา

ถ้ำนาคามีเรื่องเล่าหลายตำนาน ที่โด่งดังที่สุดเห็นจะเป็นตำนานเกี่ยวกับพญานาคผู้ผิดหวังในความรัก เล่าว่าเจ้าเมืองกรุงลังกามีลูกชาย คือ เจ้าชายฟ้ารุ่ง อภิเษกสมรสกับมเหสีซึ่งเป็นพญานาคนาม นาครินทรานี ลูกสาวของพญานาคราช เมื่อครั้งที่นาครินทรานีล้มป่วย ร่างกายของนางอ่อนแอจนกับกลายร่างเป็นพญานาค แม้ว่าเมื่อหายดีแล้วจะแปลงกายเป็นมนุษย์ดังเดิมข่าวลือที่ว่านางเป็นพญานาคก็กระจายไปทั่วหัวเมือง เจ้าเมืองลังกาจึงขับไล่นางให้กลับไปยังเมืองบาดาล พญานาคราชโกรธมาก ตั้งใจจะมารับลูกสาวคืนและขอเครื่องราชประจำตระกูลคืน แต่เจ้ากรุงลังกาไม่สามารถคืนได้ เพราะนำไปหลอมรวมกับอย่างอื่นแล้ว พญานาคราชจึงสาปให้เจ้ากรุงลังกากลายเป็นงูยักษ์และถล่มเมืองลังกาเสียสิ้น พญานาคฆราชกล่าวว่า เจ้ากรุงลังกาต้องกลายเป็นงูเฝ้าเมืองร้างแห่งนี้ตลอดไป จนกว่าจะมีเมืองแห่งใหม่ปรากฏขึ้นจึงจะพ้นคำสาป อีกตำนานหนึ่งเกี่ยวกับพ่อปู่อือลือ พญานาคที่อาศัยอยู่ในเมืองบาดาลแล้วรู้ว่าบริวารของตนไปสมสู่กับมนุษย์จึงได้สาปให้บริวารกลายเป็นหิน ส่วนตำนานอื่นๆเล่าว่า บริเวณถ้ำนาคา คือ ร่างของงูยักษ์ที่ตายแล้วไม่ย่อยสลายจนกลายเป็นหิน นอกจากเรื่องราวเกี่ยวกับพญานาคแล้ว ว่ากันว่าถ้ำนาคายังเป็นจุดเชื่อมต่อระหว่าง โลกมนุษย์และดินแดนลับแล เคยมีเรื่องเล่าว่า ชายคนหนึ่งนุ่งขาวห่มขาวเตรียมบวชเป็นพระ แต่คืนก่อนบวชเขาได้หายตัวไปในเมืองลับแลแล้วไม่กลับมาอีกเลย ครอบครัวเป็นห่วงจึงเอาเรื่องนี้ไปปรึกษาพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ซึ่งท่านก็บอกว่า ชายคนนี้มีความสุขดีกำลังครองรักกับหญิงชาวลับแลคนหนึ่ง เพราะเคยเป็นเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน เมื่อเข้าไปก็ออกมาไม่ได้เพราะทางเข้าปิดแล้ว แต่ทางญาติๆสามารถถามไถ่สารทุกข์สุกดิบได้ผ่านทางช่องแคบของถ้ำนาคา ซึ่งเมื่อชาวบ้านเหล่านั้นทำตามก็พบว่า มีเสียงตอบกลับของชายคนนั้นออกมาจริงๆว่า เขามีความสุขมาก สุขสบายดีไม่ต้องเป็นห่วง

ว่ากันว่าก่อนที่ถ้ำนาคาจะกลายเป็นสถานที่สักการะบูชาพญานาคยอดฮิต ที่ผู้ศรัทธาต้องลำบากดั้นด้นเดินขึ้นเขาลังกานานถึง 2 ชั่วโมงก่อนจะถึงถ้ำพญานาค ชาวบ้านแถวนั้นเคยค้นพบสถานที่นี้นานแล้ว แต่ไม่อยากเปิดเผย เพราะพญานาคท่านไม่อนุญาตให้คนที่ไม่นับถือเข้าไปยุ่มย่าม หากท่านอยากเผยตัวจะแสดงปาฏิหาริย์ให้เห็นเอง ซึ่งทุกวันนี้ชาวบ้านก็บอกว่า ท่านได้เผยตัวแล้ว เพราะแต่ก่อนลายหินที่ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่ แตกลายชัดเป็นเกล็ดสวยงาม แต่ในทางวิทยาศาสตร์แล้ว ปรากฏการณ์ที่เนื้อผิวหินมีลักษณะคล้ายเกล็ดงูแบบนี้ เกิดจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว กลางวันร้อนมากกลางคืนหนาวเหน็บจนทำให้ชั้นหินทรายแตก เกิดเป็นเกล็ดงูเหมือนที่เราเห็นกัน

อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days