การบูชายัญเป็นพิธีกรรมตามความเชื่อที่ว่า ต้องนำชีวิตไปแลกกับการคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเราอาจเคยเห็นผ่านสื่อต่างๆมาแล้วมากมาย แต่รู้หรือไม่ว่าในประเทศไทยเองก็มีการบูชายัญสุดสยองในหน้าประวัติศาสตร์อยู่เช่นกัน คือ พิธีกรรมฝัง เสาหลักเมือง ที่ต้องสังเวยชีวิตผู้บริสุทธิ์มากมาย เพื่อจะสร้างบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรือง
การสังเวยชีวิตในพิธีฝัง เสาหลักเมือง

เสาหลักเมือง หรือที่คนส่วนใหญ่มักจะรู้จักกันในนามของ เสาใจกลางเมือง ซึ่งเป็นที่สิงสถิตของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องอารักษ์ขาบ้านเมืองให้สงบร่มเย็น แต่ในสมัยโบราณนั้น มีประเพณีที่เรียกกันว่า การฝังเสาหลักเมือง ราชาผู้ปกครองเมืองในสมัยนั้น จะส่งทหารไปเกณฑ์คนมาทำพิธีกรรมดังกล่าว โดยเหล่าทหารจะไปตามหมู่บ้านทั่วอาณาจักรและตะโกนถามชื่อคน “อิน” “จัน” “มั่น” “คง” หากเจ้าของชื่อทั้ง 4 ขานรับจะถูกนำตัวเข้าวังและได้รับการดูแลอย่างดี 2-3 วัน ก่อนจะถูกผลักลงในหลุมที่เตรียมไว้สำหรับฝังเสาหลักเมือง เพชฌฆาตจะตัดเชือกให้เสาร่วงลงมาตอกทับร่างของคนในหลุมให้แบนราบติดกับพื้นธรณี เชื่อว่าวิญญาณของผู้ตายในพิธีฝังเสาหลักเมืองจะกลายเป็นเทพคุ้มครองปกปักษ์รักษาบ้านเมือง ด้วยจิตใจที่ภักดี ยามบ้านเมืองมีอันตรายพวกเขาจะแสดงอภินิหารแจ้งเตือนในรูปแบบต่างๆ เช่น เข้าฝันเจ้าเมือง ทำให้สัตว์ในป่าแตกตื่น เสกฝนให้ตกในหน้าร้อน ตามตำนานมีทั้งผู้ที่ซื่อสัตย์และจริงใจ ต้องการจะตายในพิธีนี้จริงๆ แต่บางคำบอกเล่ากล่าวว่า ถึงแม้จะไม่ยินยอม แต่สุดท้ายก็จะถูกกักขังให้กลายเป็นวิญญาณในเสาหลักเมืองอยู่ดี โดยผู้ที่มีลักษณะจะเป็นเครื่องสังเวยในพิธีนี้ต้องไม่ใช่นักโทษประหาร มีฐานะดีเป็นที่น่ายกย่องของผู้คน หากเป็นชายต้องไม่มีรอยสัก เป็นหญิงต้องไม่มีรูเจาะตามร่างกาย หลังจากสั่งเสียพ่อแม่พี่น้องเรียบร้อยแล้วตายในหลุม คนในครอบครัวจะได้รับรางวัลอยู่สุขสบายไปตลอดทั้งชาติ จึงมีผู้คนไม่น้อยที่อาสามาเอง สมัยหลังๆเริ่มมีความเชื่อว่า วิญญาณของหญิงท้องแก่ใกล้คลอดจะมีพลังมากกว่าคนทั้ง 4 ชื่อ จึง เกิดเป็นประเพณีการหาหญิงท้องมาฝังเป็นเสาหลักเมืองเรียกว่า แม่หลักเมือง ประเพณีนี้ต้องเกณฑ์ราษฎรมาถึง 68 คน แต่ในขณะที่กำลังทำพิธีอยู่นั้น มีหญิงคนหนึ่งเกิดคลอดบุตรออกมา ในวังจึงเกิดความสังเวชและยกเลิกพิธีไป เพราะคิดว่าเทวดาฟ้าดินไม่อยากให้ใช้วิธีนี้อีกต่อไปจึงดลบันดาลให้เกิดเรื่องขึ้น นับแต่นั้นมา การใช้มนุษย์สังเวยในพิธีฝังเสาหลักเมืองจึงถูกยกเลิกไปแล้วใช้หุ่นขี้ผึ้งที่ปั้นเป็นรูปร่างมนุษย์แทน

ไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น ทางแถบเอเชียยังมีอีกหลายประเทศที่ใช้มนุษย์บูชายัญเพื่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆขึ้นมา เช่น กำแพงเมืองจีนก็มีการโยนคนลงไปในร่องกำแพงแล้วเทปูนทับ ปราสาทบางแห่งของประเทศญี่ปุ่นเองก็มีการสังเวยคนลงไปในดินก่อนสร้าง ว่ากันว่าเสาหลักเมืองของกรุงเทพก็มีศพคนอยู่ใต้เสาไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ในช่วงที่ก่อตั้งกรุงเทพขึ้นจะยกเลิกพิธีสังเวยแบบนี้ไปแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพียงคำบอกเล่าจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ของชาวต่างชาติเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานขุดค้นว่า ใต้เสาหลักเมืองกรุงเทพนั้น มีศพอยู่จริงหรือไม่

อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days