“บิ๊กฟุต”หรือที่หลายคนเรียกว่า ไอ้ตีนโต เป็นสัตว์ประหลาดลึกลับรูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่มีความสูงถึง 3 เมตร หนัก 250 กิโลกรัมและขนยาวมาก มันมีขนสีเข้ม แขนขายาว ไม่มีคอ ท่าทางการเดินคล้ายมนุษย์ อีกทั้งขนาดเท้าของมันยังยาวถึง 35 เซนติเมตร อันเป็นที่มาของชื่อ บิ๊กฟุต ดูๆไปแล้วลักษณะคล้ายกับลิงหรือกอริลล่า แต่มีใบหน้าคล้ายมนุษย์มาก จึงมีหลายคนสันนิษฐานว่า มันอาจเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ก็เป็นได้
ตัวตนที่แท้จริงของ บิ๊กฟุต

เชื่อว่าบิ๊กฟุตมีตัวตนมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ เพราะตามความเชื่อของลัทธิต่างๆในแต่ละประเทศ มักมีเรื่องราวเกี่ยวกับปีศาจที่ลักษณะคล้ายคลึงกับบิ๊กฟุตอยู่ เช่น เยติ ที่ปรากฏตัวในแถบเทือกเขาสูงหนาวเหน็บ ต่างจากบิ๊กฟุตแค่มีขนสีขาว โดยแต่ละพื้นที่จะมีคำเรียกบิ๊กฟุตแตกต่างกัน อย่างในชนเผ่าอินเดียแดงจะเรียกมันว่า มายา แอซเท็ก ซึ่งแปลว่า มนุษย์ขนดก ตามรายงานมีการพบเห็นบิ๊กฟุตในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในทวีปอเมริกาเหนือ แคนาดาและสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีป่ารกทึบ โดยชาวอินเดียแดงชนเผ่าดั้งเดิมในแถบอเมริกามีความเชื่อว่า เมื่อเข้าป่าให้เคาะหิน เคาะไม้ ผิวปาก เพื่อแจ้งให้บิ๊กฟุตรู้ หากมันได้ยินจะส่งสัญญาณกลับมาเช่นเดียวกัน พวกเขาเชื่อว่า นี่เป็นวิธีที่เหล่าบิ๊กฟุตใช้สื่อสารกันเองเช่นเดียวกับลิงหรือกอริลล่า และถ้าหากบังเอิญเจอตัวมันเข้าห้ามสบตาเด็ดขาด เพราะจะถือเป็นการท้าทาย บิ๊กฟุตจะโกรธคนที่สบตากับมันมากจนถึงขั้นฆ่าแกงกันได้เลยทีเดียว ในปี 1821 ได้มีการค้นพบรอยเท้าบิ๊กฟุตครั้งแรกที่มีขนาดยาวถึง 35 เซนติเมตร ผู้ค้นพบคิดว่า มันอาจเป็นรอยเท้าของหมีกริซลี่ยักษ์ แต่เมื่อนำมาตรวจสอบพบว่า ลักษณะรอยเท้าคล้ายมนุษย์ ต่อมาในปี 1924 ได้มีผู้ยืนยันว่าตนนั้นถูกบิ๊กฟุตจับตัวไป เขาเล่าว่ามันเป็นปีศาจที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าคน ขนดกเหมือนลิง เดินสองขาและอาศัยกันเป็นครอบครัว โชคดีที่เขาสามารถหนีรอดมาได้ แต่ก็ยังไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เขาเล่าอยู่ดี ล่าสุดในปี 2012 ได้มีคนเปิดเผยว่า ตนได้ยิงบิ๊กฟุตสำเร็จและนำศพของมันไปจัดแสดงทั่วโลก อีกทั้งยังนำไปให้มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งได้ตรวจสอบดีเอ็นเอและพบว่า เป็นดีเอ็นเอที่ไม่มีในสัตว์ชนิดไหนบนโลก ซึ่งพวกเขาไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นที่แตกตื่น จึงต้องขอเก็บข้อมูลไปวิจัยในระยะยาว แต่ยังมีคนหักล้างเรื่องนี้ว่า แท้จริงแล้วเป็นเพียงเรื่องแต่งที่กุขึ้นเท่านั้น เนื่องจากมีช่วงหนึ่งที่กระแสของบิ๊กฟุตเป็นที่โด่งดัง จนมีผู้ประกาศจะให้เงินรางวัล 1,000,000 ดอลลาร์ สำหรับใครก็ตามที่จับบิ๊กฟุตได้ ไม่ว่าเป็นหรือตาย จึงมีหลายคนพยายามกุเรื่องบิ๊กฟุตขึ้นเพื่อชิงเงินรางวัลนั้น แต่จนถึงทุกวันนี้เงินรางวัล 1,000,000 ดอลลาร์ก็ยังไม่เคยตกเป็นของผู้ใด แสดงให้เห็นแล้วว่า เรื่องราวของบิ๊กฟุตยังไม่เคยกระจ่างชัด

มีหลายทฤษฎีเกี่ยวกับบิ๊กฟุต บ้างว่าเป็นสัตว์ป่าดึกดำบรรพ์ บ้างก็ว่าเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์ที่แยกตัวออกจากสังคมจึงมีวิวัฒนาการช้า บางคนก็เชื่อว่า มันเป็นปีศาจหรือจิตวิญญาณของผู้พิทักษ์ป่า ขณะที่นักวิจัยหลายคนไม่เชื่อเรื่องบิ๊กฟุต เพราะมันเป็นสิ่งมีชีวิตที่ขัดแย้งกับระบบห่วงโซ่อาหาร

อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days