มักกะลีผล ต้นไม้ประหลาดออกลูกเป็นสาวงาม

ความเชื่อเรื่อง มักกะลีผล

ตามตำนานเล่าว่า เดิมทีป่าหิมพานต์ไม่มีต้นมักกะลีผล แต่เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าเกิดเป็นพระเวสสันดร ท่านได้เข้ามาอาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์แห่งนี้พร้อมกับลูกชายลูกสาวอย่าง “กัณหา” “ชาลี” และภรรยาคือ “พระนางมัทรี” เมื่อยามที่พระเวสสันดรนั่งสมาธิบำเพ็ญภาวนา พระนางมัทรีมีหน้าที่ต้องออกไปหาอาหาร เก็บผลไม้ในป่า รูปโฉมที่งดงามของพระนางทำให้พวกฤาษีเทวดาที่ผ่านทางมาเห็น มักจะคอยเกี้ยวพาราสีนางอยู่เสมอ ร้อนไปถึงพระอินทร์กลัวว่า พระนางจะเป็นอันตราย จึงได้เนรมิตต้นมักกะลีผลขึ้นมารอบที่พำนักของพระเวสสันดรถึง 16 ต้น และร่ายคำสาปใส่ต้นมักกะลีผลไว้ว่า หากผู้ใดได้เสพสังวาสกับมักกะลีผลจะสูญเสียอิทธิฤทธิ์ไปทั้งหมดและต้องหลับไหลในภวังค์ยาวนานถึง 4 เดือนเลยทีเดียว แม้ว่าจะหมดชาติของพระเวสสันดรแล้ว ต้นมักกะลีผลเหล่านั้นก็ยังไม่หายไปไหน ยังคงผลิดออกผลงอกงามอยู่ร่ำไป ถือเป็นเครื่องทดสอบกิเลสตัณหาของบุรุษได้เป็นอย่างดี ฤาษีบางคนที่ฝึกตนจนแกร่งกล้าแล้ว มักจะมานั่งมองต้นมักกะลีผล เพื่อทดสอบตัวเอง บ้างก็ให้ลูกศิษย์มาจ้องมองด้วย ลักษณะของต้นมักกะลีผล มีใบคล้ายต้นมะม่วงแต่มีขนาดใหญ่เท่าใบต้นกล้วย ดอกเหมือนดอกกล้วยไม้ มีเกสรตรงกลาง ส่งกลิ่นหอมอบอวนทั่วป่าหิมพานต์ เมื่อต้นมักกะลีผลออกดอก 3 วัน จะโตเป็นสาวงามที่มีนิ้วทุกนิ้วยาวเท่ากัน ยกเว้นนิ้วโป้งที่ยาวเพียงครึ่งหนึ่งของนิ้วชี้ ผมยาวสีทอง ตากลมโต ตาดำจะเป็นสีทองส่วนตาขาวเป็นสีฟ้า จมูกโด่งสวยเหมือนจันทร์เสี้ยว กลางกระหม่อมมีขั้วติดอยู่เหมือนมะเขือหรือมังคุด คิ้วโก่ง คอเป็นปล้องสามปล้อง ไม่มีกระดูกไหปลาร้าหรือข้อกระดูกตามร่างกาย ทุกส่วนเหมือนสตรีเพศ แต่มีอายุอยู่ได้แค่ 7 วัน หลังจากนั้นจะเน่าเสีย แห้งหดเหลือลูกเท่ามะม่วง ดวงตาเบิกโพล่งน่าสยดสยอง หากตกลงมาที่พื้นแต่ยังไม่มีผู้ใดเก็บไปเป็นเจ้าของ นกและแมลงจะมารุมกินจนหมด มักกะลีผลยังมีเสียงร้องอ่อนหวานเหมือนหญิงสาวและสามารถพูดคุยสื่อสารได้อีกด้วย

มีอีกตำนาน เรื่องลี้ลับ เล่าว่าแท้จริงแล้วมักกะลีผลเป็นเทพธิดาที่มีกรรม จึงมาสิงอยู่ในต้นมักกะลีผล ซึ่ง 1 ผล  จะเท่ากับเทพธิดา 1 องค์ รูปร่างจะสวยงามสักแค่ไหน ขึ้นอยู่กับบุญวาสนาที่เคยทำมาก่อน หากทำกรรมหนัก บางครั้งจะออกมาเป็นมักกะลีผลที่มีรูปร่างบิดเบี้ยวไม่สวยงามเท่าผลอื่น

อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days

#มักกะลีผล #นารีผล