“เชียงใหม่” เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นดอยสูงหลากหลายดอย หรือสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในตัวเมืองก็เยอะ ความเจริญก็เท่าเทียมกันกับกรุงเทพมหานคร จึงไม่แปลกที่ใคร ๆ จะเลือกให้เชียงใหม่เป็นปลายทางของตัวเองเมื่อถึงวันหยุดยาว แต่จะทำอย่างไรเมื่อการมาเที่ยวเชียงใหม่ที่ควรมีแต่ความชิลล์กลับกลายเป็นความเหนื่อยที่ต้องหาที่พักซึ่งโรงแรมหลายแห่งมักจะเต็มอย่างรวดเร็วไม่ว่าจะเป็นในตัวเมืองเชียงใหม่หรืออำเภอใกล้ ๆ อย่างหางดงก็ตาม ทำให้ตัวเลือกที่พักซึ่งหลายคนจำเป็นต้องเลือกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คือ “บ้านพักชั่วคราว” ที่สามารถพักรวมกันเป็นกลุ่มใหญ่ได้ในบ้าน 1 หลังที่มีห้องรวมและห้องแยกอย่างเหมาะสม เป็นส่วนตัว แม้จะไม่ได้สะดวกสบายและวิวทิวทัศน์ดีเหมือนในโรงแรมก็ตาม อีกทั้งยังประหยัดสามารถแชร์ค่าที่พักกันได้ด้วย ทว่ามันจะคุ้มหรือไม่กับทุกอย่างหากต้องแถมมาด้วยความหลอน เรื่องลี้ลับ ของบ้านพักชั่วคราวหลังหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ในซอยที่ใกล้กับ “ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต” ที่จากปากของกลุ่มคนที่เคยไปพัก 2 กลุ่มซึ่งเจอประสบการณ์สะพรึงของวิญญาณในบ้านหลังเดียวกัน ซึ่งหากเป็นคุณคงจะยอมนอนบนรถแทนก็ได้!
ประสบการณ์ที่ 1 ของ บ้านพักชั่วคราว สุดสยองในเชียงใหม่

ประสบการณ์แรกเป็นประสบการณ์ของผู้เล่าคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงที่ได้มีโอกาสไปพักบ้านเช่าหลังนี้เพราะได้รับการแนะนำมาจากคนในพื้นที่ ด้วยที่พักโรงแรมอื่น ๆ ในช่วงเทศกาลเต็มหมดแล้ว และเห็นว่ามีราคาที่ถูกด้วย แถมผู้เล่ากับเพื่อน ๆ ก็มากันเป็นกลุ่มใหญ่ บ้านหลังนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดี ทันทีที่มาถึง พวกเขาพบว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านสองชั้นที่ชั้นแรกปูด้วยปูนและชั้นสองเป็นไม้มีโครงสร้างลักษณะแบบโบราณกึ่งล้านนาสมัยก่อน ขนาดมีความไม่เล็กและไม่ใหญ่ไป ซึ่งพวกเขาได้ติดต่อขอพักบ้านกับผู้ดูแลที่ชื่อว่า “ป้าละไม” ที่ท่านมีอัธยาศัยดี พูดเก่ง และโปรโมทบ้านหลังนี้ซะอย่างดี
พอเข้ามาในบ้านแล้ว เพื่อนคนหนึ่งที่มีเซ้นส์ก็สัมผัสได้ว่า บ้านหลังนี้มีความแปลก ๆ ของพลังงานที่ทำให้รู้สึกอึดอัดจนหายใจลำบาก โดยเฉพาะชั้นสองที่เป็นไม้ พลังงานค่อนข้างแรง ยิ่งเห็นประตูห้องหนึ่งซึ่งคล้องโซ่ไว้ก็ยิ่งรู้สึกแปลก แต่คุณเคยกับเพื่อนคนอื่นกลับบอกเขาว่า ไม่มีอะไรหรอก บ้านก็เงียบสงบและน่าอยู่ดี เธอจึงไม่คิดอะไรมากและเอาสัมภาระมาเก็บก่อนจะพักผ่อน จนถึงเวลาเย็นค่ำที่พวกเขาตกลงกันว่าจะออกไปหาอะไรกินในร้านอร่อย ๆ และเที่ยวตลาดช็อปปิ้งในย่านสวย ๆ ของเมืองเชียงใหม่กันยาว แต่เพื่อน 2 คนในกลุ่มที่เหนื่อยจากการเดินทางกลับขอพักผ่อนที่บ้านจึงไม่ได้ไปด้วย คนหนึ่งที่มีเซ้นส์นอนพักที่ลานบ้านชั้นล่าง ส่วนอีกคนที่นอนพักที่ชั้นบน

นานจนฟ้าเริ่มมืด จู่ ๆ เพื่อนคนที่นอนชั้นล่างของคุณเตยก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเหมือนมีใครมาเดินรอบตัวพร้อมเรียกชื่อเขา แต่พอเปิดผ้าห่มมาก็ไม่มีใครแถมบรรยากาศก็เย็นยะเยือกแบบแปลก ๆ เขาที่รู้สึกไม่ปกติจึงพยายามคลุมโปงก่อนที่เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่รู้ก็ถูกเพื่อนในกลุ่มปลุกอย่างรีบร้อนท่ามกลางเสียงกรีดร้องของเพื่อนที่นอนอยู่ชั้นบน พวกเขาจึงรีบขึ้นไปดูก็พบกับประตูห้องปิดตายที่เปิดออกมาและมีเพื่อนของพวกเขาสลบอยู่ในห้อง ซึ่งด้านหลังเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมชุดล้านนาสีดำผิวซีดขาว ผมยาวสีดำระย้าลงมาเกือบถึงพื้นอยู่ในท่าหงิกงอกำลังไต่ตามผนังห้องราวกับแมงมุมจนพวกเขาต้องรีบเข้าไปอุ้มตัวเพื่อนแล้วหนีลงมารวมตัวกันอยู่ในรถเพราะข้าวของยังอยู่ที่บ้านทำให้ไม่สามารถไปไหนได้ พอตะวันขึ้น พวกเขาจึงรีบเก็บของแล้วคืนกุญแจบ้านให้ป้าละไมโดยไม่พูดอะไร ก่อนจะไปหาอาหารเช้ารับประทานหน้าแถวปากซอยและพูดคุยเรื่องเมื่อคืนจนแม่ค้าที่ได้ยินรีบเล่าให้พวกเขาฟังด้วยความตกใจว่า บ้านหลังนั้นแต่ก่อนเคยมีผู้หญิงที่เล่นของแล้วก็ป่วยด้วยโรคประจำตัวจนเสียชีวิตในห้องชั้นบนซึ่งรูปพรรณสันฐานตามที่ทุกคนเห็นเมื่อคืนเป๊ะ แต่ก็ไม่เคยมีใครเห็นวิญญาณของเธอเลย อาจเป็นเพราะป้าละไมที่ดูแลบ้านเพิ่งเปิดให้คนใหม่ ๆ มาเข้าพักทำให้ได้พบกับความสยองนี้ และหากเพื่อนคนนั้นไม่ถูกสิงเพราะจิตที่อ่อนแรงก็คงจะไม่ได้รู้ว่าภายในห้องมีสิ่งที่น่ากลัวนี้แฝงอยู่
ประสบการณ์ที่ 2 ของบ้านพักชั่วคราวสุดสยองในเชียงใหม่

ภายในบ้านพักหลังเดิมของตัวเมืองเชียงใหม่ ได้มีผู้เล่าอีกคนที่เข้าไปพักกับเพื่อนร่วมงานตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ เพราะต้องทำงานออกบูธที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ตแต่เช้าทำให้มีคนแนะนำบ้านพักที่ราคาไม่แพงและอยู่กันเป็นหมู่คณะได้ ซึ่งก็คือบ้านหลังเดียวกันกับผู้เล่าคนแรกและได้เจอกับป้าละไมเจ้าเก่าเจ้าเดิมที่โปรโมทบ้านดีไม่เปลี่ยน ซึ่งครั้งนี้ผู้เล่ากับเพื่อนส่วนใหญ่ก็ได้นอนกันบนชั้นสอนเพราะเห็นว่าเป็นบ้านไม้ล้านนาที่เปิดระเบียงออกมารับลมเย็น ๆ ได้ดี สบาย ๆ ซึ่งพักแต่ละคืนก็ไม่มีอะไร ทุกคนก็ยังคงสลับกันไปออกบูธที่ห้างสรรพสินค้ากันเหมือนเดิม ส่วนคนที่ไม่ได้มีหน้าที่เป็นเวรไปยืนที่บูธก็พักผ่อนอยู่บ้าน จนล่วงเลยเข้าวันที่ 3 เหตุการณ์แปลก ๆ ก็ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันนั้นมีเพียงคนหนึ่งในกลุ่มที่นอนอยู่บ้านคนเดียวในยามบ่าย เพราะเพื่อนบางส่วนไปออกบูธและอีกส่วนก็ออกไปเที่ยวซื้อของ ขณะที่นอนอยู่นั้น จู่ ๆ เขาก็รู้สึกเหมือนมีใครมาหายใจลดศีรษะกับต้นคอ แต่ด้วยตอนนั้นยังง่วงจึงคิดตื้น ๆ ว่า คงเป็นลมโดยไม่ได้นึกเลยว่า ลมนั้นมีความอุ่น! จวบจนเวลาผ่านไปก็เริ่มมีเสียงฝีเท้าที่เดินไปมารอบตัวและแรงสะเทือนจนทำให้สุดท้ายเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาก็กลับไม่พบอะไรแต่ขนลุกอย่างประหลาดจนวันต่อ ๆ มาแม้จะมีคนอยู่แต่ก็มักจะได้ยินเสียงปิดประตูและเสียงไม้กระทบกันดังขึ้นถี่ ๆ ทั้งยามบ่ายและยามกลางคืน จนถึงวันที่ใกล้จะกลับที่ทำให้ทุกคนออกจากบ้านแทบไม่ทัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ เรื่องลี้ลับ สุดหลอนที่คืนนั้นจู่ ๆ ทุกคนก็ได้ยินเสียงหัวเราะของผู้หญิงดังลั่นไปทั่ว พอมองทีแรกไม่พบอะไร จนเสียงหัวเราหยุดกะทันหัน ทุกคนคิดว่าคงไม่มีอะไรแล้วจึงคิดจะเปลี่ยนไปนอนชั้นล่าง แต่ในระหว่างที่กำลังเก็บผ้าปูที่นอนเตรียมลงไป เพื่อนคนหนึ่งของผู้เล่าก็เผลอไปมองที่เพดานแล้วก็ต้องตกใจสุดขีดก่อนที่คนอื่นเห็นแบบนั้นจึงมองตามก็พบกับผู้หญิงเจ้าของเสียงที่ไต่เพดานสูงพร้อมฉีกยิ้ม ผมยาวระย้าลงมาให้อย่างสยองขวัญจนไม่มีใครสามารถทนอยู่ได้และนับแต่นั้นเมื่อข่าวแพร่ออกไปก็ไม่มีคนกล้ามาพักบ้านหลังนี้อีกเลย
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days