3 ประสบการณ์ส่งอาหารหลอนของ ไรเดอร์

“ห้ามไปตามหมุด” ประสบการณ์ส่งอาหารหลอนอันดับ 1 ของ ไรเดอร์

            “ห้ามไปตามหมุด” เป็นประสบการณ์ส่งอาหารหลอนอันดับ 1 ของไรเดอร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของไรเดอร์ที่ได้กดรับออเดอร์ที่ลูกค้าคนหนึ่งสั่งมา ซึ่งในระหว่างที่ไรเดอร์กำลังนั่งรออาหารอยู่และสำรวจเส้นทางตามหมุดแผนที่ ลูกค้าที่สั่งออเดอร์นั้นก็ได้ส่งข้อความมาว่า “พี่…ถ้าเดินทางมาส่งออเดอร์ อย่าไปตามเส้นทางที่แผนที่ Google Map ชี้ให้ไปนะ” พอไรเดอร์ได้อ่านก็ส่งข้อความถามกลับไปด้วยความที่คิดว่าที่อยู่ซึ่งลูกค้าปักหมุดไม่ตรงหรือ แต่ลูกค้าก็ตอบมาว่า หมุดที่อยู่บ้านของตนนั้นปักมาถูกต้องแล้ว แต่ให้ใช้เส้นทางอื่นในการเดินทางมา ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามเด็ดขาด ซึ่งไรเดอร์คนนั้นแม้จะสงสัยแค่ไหนก็ยอมทำตามที่ลูกค้าบอกโดยเลือกใช้อีกเส้นทางหนึ่งไปบ้านลูกค้าแม้ว่าเส้นทางนั้นจะอ้อมก็ตาม

จนกระทั่งมาถึงบ้านลูกค้า ลูกค้าจึงได้ให้คำตอบว่า ปกติจะสั่งอาหารตอนกลางวัน เพิ่งลองสั่งอาหารตอนกลางคืนเป็นครั้งที่ 2 เพราะครั้งแรกเมื่อคืนก่อนนู้นที่สั่งไป ในขณะที่รออาหารจู่ ๆ ไรเดอร์ที่มาส่งอาหารก็โทรมาหาด้วยน้ำเสียงสั่นเครือราวกับกำลังร้องไห้พร้อมบอกว่า “บ้านพี่ยังอยู่อีกไกล หนูไปไม่ไหวแล้ว ผีหลอกหนูที่หน้าวัดเนี่ย ดุแบบนี้หนูขอโทษนะ” แล้วจากนั้นก็วางสายไป ซึ่งไรเดอร์คนนั้นใช้เส้นทางปกติตามแผนที่บอกทางมาซึ่งต้องผ่านหน้าวัดแห่งหนึ่งในซอยจึงถูกผีหลอก หากผู้เล่าไรเดอร์มาตามทางหมุดก็คงมีสภาพไม่ต่างจากไรเดอร์คนก่อนเป็นนี้ ถือว่ารอดได้หวุดหวิดทีเดียว!

“แขวนอาหารหลอน” ประสบการณ์ส่งอาหารหลอนอันดับ 2 ของไรเดอร์

            “แขวนอาหารหลอน” เป็นประสบการณ์ส่งอาหารหลอนอันดับ 2 ของไรเดอร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของไรเดอร์ที่สนิทกับลูกค้าคนหนึ่งมาก ๆ จนเหมือนเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน เพราะเขามักจะมาส่งอาหารจากร้านหน้าหมู่บ้านให้ลูกค้าคนคนนี้ที่อยู่ในซอยบ่อย ๆ จนมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ทั้งคู่ห่างหายการพูดคุยกันไป เพราะลูกค้าคนนี้ไม่ได้สั่งอาหารเหมือนปกติ ซึ่งไรเดอร์ก็คิดว่าอาจจะไปต่างจังหวัดก็ได้เพราะเห็นปิดบ้านเงียบ

 จนกระทั่งวันหนึ่งที่ลูกค้าคนเดิมได้กลับมาสั่งอาหารอีกครั้งโดยที่เขาต้องเป็นคนไปส่งให้เหมือนเดิม แต่ครั้งนี้ลูกค้ามาแปลก เพราะนอกจากจะเปลี่ยนวิธีการชำระเงินที่ทุกครั้งจะเป็นเงินสดกลายเป็นโอนแทนแล้ว เขายังได้ส่งข้อความมาบอกไรเดอร์ด้วยว่า “ถึงบ้านแล้วให้พี่แขวนอาหารไว้ที่ประตูรั้วแล้วไปได้เลย เดี๋ยวจะออกมารับเอง” ซึ่งไรเดอร์เมื่อรับอาหารมาแล้วก็ได้มาถึงบ้านแล้วนำอาหารมาแขวนตามที่ลูกค้าบอกพร้อมกับตะโกนเรียกลูกค้าแบบเป็นกันเองว่า “ผมเอาอาหารมาแขวนไว้แล้วนะ!” ซึ่งขณะตะโกน ตาของเขาก็เห็นเงาของลูกค้านั่งอยู่ในบ้านหันมามองเขาผ่านกระจกอย่างเงียบ ๆ ไม่พูดอะไร และประจวบเหมาะกับที่มีคิวออเดอร์ใหม่เข้ามาพอดี เขาจึงขี่รถออกจากบ้านลูกค้าและจอดที่ร้านหน้าหมู่บ้านเหมือนเดิมก่อนที่ป้าเจ้าของร้านที่เพิ่งกลับจากไปทำธุระข้างนอกจะเดินเข้ามาทักทาย เขาจึงเล่าพฤติกรรมแปลก ๆ ของลูกค้าที่สนิทกันให้ป้าฟังเพราะลูกค้าคนนี้ก็สนิทกับป้าเขาเหมือนกัน เรื่องที่เล่าทำให้ป้าถึงกับหน้าถอดสีแล้วบอกว่า “ลูกค้าคนนี้เสียชีวิตไปเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เองนะ จะมาสั่งออเดอร์เราได้ไง” ซึ่งคำพูดของป้าก็ทำให้ไรเดอร์ถึงกับขนลุก รู้ถึงเหตุผลของลูกค้าที่ให้เขาเอาอาหารไปแขวนไว้หน้าบ้านแล้ว แต่ก็น่าแปลกที่เงินซึ่งโอนมาในบัญชีก็เข้าจริงๆ แต่เขาคงไม่กล้ามาแถวหน้าบ้านลูกค้าคนนี้อีกแน่

“ออเดอร์หลอนพิเศษ” ประสบการณ์ส่งอาหารหลอนอันดับ 3 ของไรเดอร์

            “ออเดอร์หลอนพิเศษ” เป็นประสบการณ์ เรื่องลี้ลับ ส่งอาหารหลอนอันดับ 3 ของไรเดอร์ ที่บอกเล่าเรื่องราวของไรเดอร์ส่งอาหารซึ่งได้รับออเดอร์หนึ่งที่ให้มาส่งอาหารบริเวณด้านหน้าของหมู่บ้านแห่งหนึ่งหากยึดตามหมุดที่ปัก แต่ในระหว่างที่กำลังรออาหาร ลูกค้าก็ส่งข้อความมาวานให้เขาช่วยซื้อน้ำเปล่า 1 ขวด กับพวงมาลัยให้ด้วย ก่อนจะส่งทิปพิเศษให้ในจำนวนเงินที่สมเหตุสมผล ซึ่งแม้ไรเดอร์จะสงสัยกับของที่ให้ซื้อ แต่ก็พยายามคิดว่า ลูกค้าคงซื้อไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บ้าน เมื่อรับอาหารพร้อมซื้อของตามที่ลูกค้าออเดอร์มาครบก็ได้เดินทางมาจนถึงที่อยู่ตามหมุด แต่พอเห็นหมู่บ้าน เขากลับต้องตกใจเมื่อพบว่ามันคือหมู่บ้านร้าง และพอทักไปหาลูกค้า อีกฝ่ายก็ส่งข้อความมาบอกว่า “พี่ช่วยเอาอาหาร น้ำ กับพวงมาลัยไปวางให้ที่ศาลพระภูมิหน้าหมู่บ้านที หนูวานพี่หน่อยนะคะ เพราะตอนนี้ตัวเองก็อยู่ที่ต่างประเทศจึงไม่สะดวกทำหน้าที่นี้” ซึ่งไรเดอร์ก็ทำตามก่อนจะออกจากหมู่บ้านอย่างขนลุกในออเดอร์หลอนพิเศษนี้ที่จะจดจำไปตลอดชีวิตเลย ไม่กล้าที่จะคิดหรือสงสัยในการกระทำของลูกค้าคนดังกล่าวทั้งสิ้น เพราะไม่อยากหวนนึกถึงความหลอนอีก

อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days

#ประสบการณ์หลอน #ไรเดอร์ส่งอาหาร