หากจะกล่าวถึง เรื่องลี้ลับ หนึ่งในตำนานภูเขาต่าง ๆ ในแถบภาคเหนือที่โด่งดังในวันนี้ แน่นอนว่าคงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “ตำนานขุนน้ำนางนอน” ตำนานดอยเลื่องชื่อของจังหวัดเหนือสุดในประเทศอย่างเชียงรายกันอยู่แล้ว ด้วยเพราะตำนานขุนน้ำนางนอนแต่ก่อนโด่งดังแค่ในจังหวัดเชียงราย จนกระทั่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ใหญ่ระดับประเทศที่กลุ่ม 13 นักฟุตบอลทีมหมูป่า อะคาเดมี่ได้เข้าไปหลงและติดอยู่ในถ้ำขุนน้ำนางนอนท่ามกลางฝนที่ตกหนักจนน้ำท่วมเข้าไปถึงในถ้ำส่งผลให้ต้องมีการสร้างความร่วมมือกับทีมทหารนาวิกและนักดำน้ำของต่างประเทศหลาย ๆ ประเทศเข้ามาปฏิบัติภารกิจตามหา 13 หมูป่าและให้ความช่วยเหลืออยู่ระยะหนึ่งจนสุดท้ายก็ช่วยออกมาได้ ทว่าก็มีวีรบุรุษบางคนที่ต้องเสียชีวิตจากภารกิจช่วยเหลือเด็กทั้ง 13 คนจนทำให้ตำนานขุนน้ำนางนอนถูกเล่าขานถึงหูผู้คนทั่วโลกกันนับแต่นั้น ไม่ใช่แค่ถูกเล่าขานเพียงในประเทศเท่านั้น!
ทำความรู้จักกับ “ตำนานขุนน้ำนางนอน”

“ขุนน้ำนางนอน” หรือชื่อเต็ม คือ “อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน” เป็นอุทยานแห่งชาติที่ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดอยนางนอน ตำบลโป่งผา อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาขนาดใหญ่เรียงติดกันหลายลูกจนมองดูไกล ๆ เป็นลักษณะของหญิงสาวที่นอนราบยาวอย่างมหัศจรรย์ และมีสภาพป่าเป็นป่าเบญจพรรณ เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ขึ้นตามลำธารและลำห้วยต่างๆ เช่น สัก เต็ง รัง เหียง พลวง ไผ่ป่า เป็นต้น ทำให้ผืนป่าแห่งนี้มีความร่มรื่นและอุดมสมบูรณ์เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ขุนน้ำนางนอนยังมีความโดดเด่นของ “สระน้ำมรกต” กับ “ถ้ำหลวง” ที่เป็นถ้ำหินปูนกึ่งแห้งขนาดใหญ่ มีความยาวรวมทั้งสิ้น 10,316 เมตร จัดว่าเป็นถ้ำที่มีความยาวมากที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทยเลย ซึ้งถ้ำนี้เอง คือ จุดเริ่มต้นของปฏิบัติการค้นหา 13 หมูป่า อะคาเดมี่ที่หลงเข้ามาอยู่ภายในและไม่สามารถออกไปได้เพราะน้ำที่ท่วมสูงปริมาณมากจนกลายเป็นภารกิจในตำนานที่คนทั่วโลกต้องบันทึกไว้
เรื่องราวตำนานขุนน้ำนางนอน
“ตำนานขุนน้ำนางนอน” เทือกเขาที่มีลักษณะของเขาขุนน้ำนางนอนที่เห็นเป็นหญิงสาวที่นอนราบนิ่งด้วยความสงบซึ่งเห็นได้จากทุ่งนาและเส้นทางการคมนาคมในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย มีตำนานที่บอกเล่าถึง 3 ตำนาน ดังนี้

ตำนานที่ 1 เป็นเรื่องราวของเจ้าหญิงแห่งเมืองเชียงรุ้ง สิบสองปันนา ที่หนีตามคนรักซึ่งเป็นชายเลี้ยงม้าเข้าไปในป่า ระหว่างนั้นเจ้าหญิงทรงพระครรภ์อยู่ เดินทางต่อไม่ไหวจึงต้องหยุดพักอยู่ตรงบริเวณที่ราบริมฝั่งโขง ส่วนชายเลี้ยงม้านั้นก็ได้อาสาไปหาเสบียงมาให้โดยไม่รู้เลยว่านั่นจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งสองได้พบกัน ชายเลี้ยงม้าถูกทหารที่พระราชบิดาของเจ้าหญิงส่งมาสังหาร เมื่อเจ้าหญิงทราบเรื่อง พระองค์ก็เสียพระทัยมากจึงนำเอาปิ่นปักผมปักเข้าที่ศีรษะตนเอง เลือดที่ไหลนองคือ แม่น้ำสาย ร่างที่นอนเหยียดยาวจากทิศใต้ถึงทิศเหนือเป็น ดอยนางนอน ส่วนบริเวณท้องที่นูนขึ้นกลายเป็น ดอยตุง อย่างที่เราได้พบเห็นในปัจจุบัน
ตำนานที่ 2 บอกเล่าเรื่องเกี่ยวกับพญานาคที่ต้องการช่วยลูกสาวจากเงื้อมมือของพญาครุฑที่ลักพาตัวนางไป ซึ่งพญาครุฑก็ได้ยื่นเงื่อนไขมาว่าต้องนำทองคำมาแลกเท่านั้นจึงจะได้ลูกสาวคืนไป พญานาคจึงนำทองคำจากบาดาล หรือ หนองตานาค มามอบให้กับพญาครุฑที่ บึงละกา ซึ่งพญาครุฑก็ได้นำทองเล่านั้นไปเก็บไว้ใน ถ้ำทรายทอง ส่วนพญานาคก็ได้สร้างเจดีย์เป็นอนุสรณ์ เรียกว่า พระธาตุจอมนาค ส่วนบริเวณที่พญานาคได้พบกับลูกสาวของตนที่นอนอยู่คือ ขุนน้ำนางนอน ที่เรารู้จักกันนั่นเอง
ตำนานที่ 3 เป็นเรื่องของเจ้าหญิงแห่งเมืองพุกามได้กรีธาทัพตามหาเจ้าชายที่ตนเองรัก จนกระทั่งได้เจอเจ้าชาย แต่กลับถูกทอดทิ้งและหนีไปกับหญิงชาวเวียงคนรักของเจ้าชาย เจ้าหญิงจึงตรอมพระทัยจนสิ้นลมหายใจ และตั้งจิตอธิษฐานให้ตนเองกลายเป็นภูเขาเรียกว่า ดอยนางนอน ส่วนน้ำตาที่ไหลรินก็คือชนชาติต่างๆ ของผู้คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้นั่นเอง
ตำนานขุนน้ำนางนอนที่มีความน่าเชื่อถือมากที่สุดและเชื่อมโยงถึงอดีตชาติของครูบาบุญชุ่มที่เดินทางมาช่วยเหลือ 13 หมูป่า อะคาเดมี่ คือ ตำนานที่ 1 ซึ่งว่ากันว่าครูบาบุญชุ่ม คือ พระบิดาของเจ้าหญิงที่กลับชาติมาเกิดเพื่อปลดปล่อยกรรมและความเศร้าหมองของเธอให้จบลงจึงนำพาให้ท่านได้กลับมาหาบุตรีจากภารกิจช่วยเหลือผู้ติดถ้ำ

ความเชื่ออาถรรพ์ตำนาน ขุนน้ำนางนอน
“ตำนานขุนน้ำนางนอน” เรื่องลี้ลับ มีอาถรรพ์ที่ว่าหากใครได้เข้ามาในถ้ำหลวงแล้วพูดไม่ดี พูดปด หรือกระทำการที่ไม่เหมาะสมดูหมิ่นสถานที่ก็จะมีเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดโชคร้ายหรือเข้าไปในถ้ำแล้วก็จะติดอยู่ในถ้ำจนหาทางออกไม่เจอได้ทำให้กลายเป็นบุคคลสาบสูญ จัดเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เราต้องให้เกียรติเมื่อไป
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days