ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แห่งใดก็สามารถพบเจอผีได้ แต่ร้อยทั้งร้อยจากประสบการณ์ เรื่องลี้ลับ ของผู้คนที่หากใครเป็นนักเดินทางก็มักจะเจอผีตามถนนหนทางเส้นเล็ก ๆ หรือถนนเส้นใหญ่ในยามที่มีรถน้อย ซึ่งประสบการณ์น่ากลัวหลากหลายเหตุการณ์จากปากต่อปากของนักเดินทางก็ได้มาเล่าให้เราฟังกันมากมาย แม้แต่ถนนเล็ก ๆ ในจังหวัดอุทัยธานีก็ยังมีเส้นทางหนึ่งที่นักเล่าเรื่องผีได้มาบอกเล่าแชร์ความหลอนปนสยองขวัญสั่นประสาทให้พวกเราได้ฟังกันด้วย ซึ่งหากใครที่เป็นชาวอุทัยธานีหรือกำลังคิดจะไปเที่ยวในต่างอำเภอของอุทัยธานีล่ะก็อย่าได้เดินทางออกจากสถานที่นั้น ๆ ตอนกลางคืนล่ะ เพราะสถานที่ที่คุณไปอาจจะมีสิ่งลี้ลับตามคุณมาเหมือนอย่างเส้นทางเล็ก ๆ ในอำเภอนี้ที่เราจะนำมาเล่าให้คุณฟังก็เป็นได้! หากพร้อมที่จะพบกับเรื่องเล่าสยองขวัญแล้วก็มาอ่านกันเลยสำหรับเรื่องหลอนแดนอุทัยธานี “น้องสาวแขนยาว” ที่ขนของคุณจะลุกโดยไม่รู้ตัว
ประสบการณ์หลอนเรื่อง “น้องสาวแขนยาว”

“น้องสาวแขนยาว” เป็นเรื่องราวของตัวผู้เล่าจากรายการวิทยุรายการหนึ่งที่เกิดเมื่อไม่กี่ปีก่อนตอนที่ตัวเองได้ไปหาแฟนที่บ้านในอำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานี และอยู่โยงคุยกับแฟนไปยาว ๆ แล้วเมื่อมองนาฬิกาเขาก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า เวลานี้เป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว ซึ่งเขาควรจะกลับบ้านตั้งแต่ตอน 1 ทุ่ม แฟนเขาที่เป็นห่วงไม่อยากให้ขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับทางมืด ๆ คนเดียวในตอนกลางคืนจึงชวนให้เขาพักค้างคืนที่บ้าน หากแต่พรุ่งนี้ผู้เล่าต้องไปทำงานตั้งแต่เช้าและที่ทำงานก็อยู่อีกอำเภอหนึ่งด้วยจึงต้องใช้เวลาเดินทางเยอะ สู้ค่อย ๆ ขับกลับบ้านตอนกลางคืนแบบไม่รีบจะสบายกว่า อากาศฤดูนี้ก็เย็นสบายกำลังดี แฟนจึงไม่กล้าท้วงต่อและให้เขากลับบ้านดี ๆ
เมื่อผู้เล่าได้ร่ำลากับแฟนแล้วขี่รถออกจากบ้านแฟนมาตามถนนหินดินแดงจากนอกหมู่บ้านที่มีไฟเรียงรายตามทางก็เริ่มเปลี่ยนเป็นทางเล็ก ๆ ที่ไม่มีไฟเลย มองไปทางไหนก็มีแต่ทุ่งนาโล่งกว้างเวิ้งว้างที่มีทิวเขาหินปูนล้อมรอบจากฝั่งหนึ่งตามสภาพแวดล้อมของอำเภอลานสักที่ยังคงความเป็นธรรมชาติของอำเภอในหุบเขาไว้ดังเดิมไม่ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน ซึ่งหากเป็นยามเช้าก็คงจะได้ชมวิวสายหมอกที่โอบล้อมภูเขาสวย ๆ แต่พอมาเป็นตอนกลางคืนมันกลับดูวังเวงพิกล ว่าแล้ว เขาก็ได้ขับรถเลยทางแยกสามแพร่งมาเพียงไม่กี่ร้อยเมตรก็พบกับเด็กสาวคนหนึ่งที่ใส่ชุดเสื้อยืด กางเกงวอร์มเดินก้มหน้าอยู่ข้างทาง แต่เขาก็ไม่กล้าหยุดรถทักเพราะกลัวจะเป็นมิจฉาชีพจึงคิดว่าจะขี่เลยน้องคนนั้นไป แต่น่าแปลกที่พอเริ่มขับเข้าไปใกล้น้องคนนั้น เขายิ่งเห็นว่าเธอเหมือนจะเดินมากลางถนนมากขึ้นจนขี่มาถึงก็ต้องตกใจสุดขีดเมื่อเห็นว่า น้องคนนั้นมีแขนที่ยาวลงมาจนเลยเข่าแถมอีกฝ่ายยังเปลี่ยนจากการเดินช้า ๆ ก่อนหน้ารีบสาวเท้าตรงดิ่งมาเหมือนตั้งท่าจะขวางรถเขา ผู้เล่าที่คิดว่าไม่น่าจะใช่คนแล้วจึงรีบบิดรถจนเลยน้องคนนั้นไปได้จนออกมาสู่ถนนใหญ่ ทว่าความสยองขวัญก็ยังไม่จบเพียงแค่นั้น เมื่อเขาได้ยินเสียงฝีเท้าเหมือนคนวิ่งตามจึงมองไปยังกระจกหลังก็แทบจะไม่มีสติเมื่อพบว่า น้องแขนยาวได้วิ่งตามเขามาแบบติด ๆ ด้วยยิ้มที่ฉีกกว้างถึงใบหูพร้อมใช้แขนยาวของเธอตวัดมาเพื่อจะจับท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของเขาให้ได้ แม้จะบิดแค่ไหนแต่น้องผีแขนยาวก็ยังวิ่งตามทันอย่างกับคุณยายสปีดจนเขาต้องขอพรกับพระที่ตนนับถือให้รอดพ้นจากผีตนนี้ให้ได้ ไม่งั้นจะต้องเกิดอันตรายแน่นอน และเขาก็เร่งบิดขึ้นอีกอย่างไม่สนว่าจะได้ยินเสียงอะไรจากข้างหลังจนรถที่ทำงานหนักมาดับกลางทางบริเวณที่มีแสงไฟข้างทางต้นแรกของหมู่บ้านอีกแห่งส่องพอดี ซึ่งพอเขาหันไปอีกครั้งก็ไม่พบน้องสาวแขนยาวแล้ว มีเพียงเสียงเรียกจากความมืดที่อยู่นอกแสงไฟว่า “…มาอยู่ด้วยกันไหมพี่” เขาจึงได้ขอความช่วยเหลือจากคนในหมู่บ้านที่อยู่ติดถนนให้ช่วยพาเขาไปส่งที่บ้านต่อแล้วค่อยมาเอารถกลับไปทีหลัง และไม่ลืมเรื่องราวหลอน ๆ ในคืนนั้นอีกตลอดชีวิต

น้องสาวแขนยาวเขามาหลอกทำไม?
น้องสาวแขนยาวจากข้อสันนิษฐาน เธอน่าจะเป็นเด็กวัยมัธยมต้นที่ถูกลักพาตัวมาแล้วเกิดอุบัติเหตุโดยผู้ชายแล้วดวงวิญญาณก็ผูกใจเจ็บ พอผู้เล่าผ่านในเส้นทางที่ตรงกับจุดที่เธอเสียชีวิตและเป็นช่วงเวลาที่ตรงกันด้วยจึงทำให้ประสบพบเจอกับเหตุการณ์หลอนนี้ที่เธอคิดว่าอาจเป็นผู้เล่าที่ทำร้ายเธอ เพราะหากมาขอส่วนบุญคงไม่ไล่กวดหนักขนาดนี้!
ข้อคิดการมีสติจาก เรื่องน้องสาวแขนยาว
ประสบการณ์หลอน เรื่องลี้ลับ น้องสาวแขนยาวได้สอนให้เราขับขี่รถอย่างมีสติ เพราะเพียงแค่ความตกใจชั่วขณะก็อาจจะทำให้เสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ง่าย ๆ อย่างตัวอย่างของผู้เล่าถือเป็นบุคคลที่มีสติดีแม้จะอยู่ในจุดที่เสี่ยงถูกทำให้รถคว่ำขนาดนั้นก็ยังคงมองข้างหน้าและรู้วิธีหลบหลีกได้ นอกจากนี้ยังเตือนใจผู้คนว่า ไม่ควรขี่รถในตอนกลางคืนด้วย เพราะเสี่ยงกับการที่รถใหญ่จะมองไม่เห็นได้

อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days