พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ เชื่อว่าหากคุณเป็นคอละครแนวลี้ลับหรือกรรมที่ต่อเนื่องข้ามภพข้ามชาติกันมาตั้งแต่ในยุคอดีตเป็นสิบ ๆ ปีก่อนที่ละครแนวนี้ฉายกันเยอะแยะล่ะก็ย่อมต้องไม่มีใครที่ไม่รู้จักตำนานของ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” อย่างแน่นอน เพราะไม่ว่าจะรีเมคละครเรื่องปู่โสมเฝ้าทรัพย์กี่เวอร์ชั่นต่อกี่เวอร์ชั่นก็โด่งดังด้วยกันทั้งนั้น แม้ว่าละครเรื่องนี้จะไม่ได้เน้นโฟกัสความรักของคู่พระนางโดยตรง และมีเรื่องเกี่ยวกับการทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว แต่เพราะมีการอ้างอิงถึงประวัติศาสตร์ ความรักในชาติและสมบัติของชาติ รวมถึงดวงจิตดวงวิญญาณต่าง ๆ ที่ไม่ได้ไปเกิดด้วยจึงมีความเรียลอยู่ในนั้น แต่จะมีสักกี่คนกันที่รู้ว่าแท้จริงแล้วตัวละครที่ชื่อว่า “ท่านปู่โสม” เป็นบุคคลที่มีอยู่จริงและท่านก็ยังคงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คอยเฝ้าดวงวิญญาณ รวมถึงปกปักรักษาคุ้มครองสมบัติต่าง ๆ ไม่ให้คนไม่ดีเอาไปได้ด้วย อยากรู้ว่าตำนานจริงของปู่โสมเฝ้าทรัพย์จะเป็นเช่นไรต้องมาอ่านกัน
ทำความรู้จักกับ ปู่โสมเฝ้าทรัพย์
“ตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์” เป็นเทพารักษ์ศักดิ์สิทธิ์ที่คอยทำหน้าที่เฝ้าทรัพย์สมบัติที่เป็นสมบัติล้ำค่าหรือสมบัติของชาติตามสัญญาเก่าที่เคยกล่าวไว้ก่อนที่ท่านจะเสียชีวิตลงในช่วงสมัยอาณาจักรอยุธยา ท่านจะคอยเฝ้าสมบัติตามโบราณสถานต่าง ๆ ที่มีการซ่อนสมบัติเอาไว้เพื่อไม่ให้ตกอยู่ในเงื้อมมือความโลภของมนุษย์ที่ไม่ดี โดยส่วนใหญ่สมบัติที่ผู้โสมคอยเฝ้าไว้จะเป็นตามวัดโบราณและในอาณาเขตของพระราชวังเก่าของราชวงศ์ผู้ปกครองกรุงศรีอยุธยา นับได้ว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังแกร่งกล้าและมีบริวารของท่านคอยดูแลเฝ้าครอบคลุมถึงทั่วทุกอาณาบริเวณของโบราณสถานเลย
เรื่องราวตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์
“ตำนานปู่โสมเฝ้าทรัพย์” ได้มีการกล่าวขานถึงเรื่องราวชวนขนลุกจากปากของบุคคลมากมายที่พบเจอ ซึ่งเรื่องราวหลัก ๆ ที่โด่งดังจะเป็นเรื่องราวในปีพ.ศ. 2500 – 2501 ที่กลุ่มโจรได้ลักลอบเข้าไปขุดสมบัติภายในวัดราชบูรณะ ซึ่งต้องใช้เวลานานถึง 3 วัน เนื่องจากมีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลจนได้สมบัติมา แต่ทว่าเมื่อลับลอบนำออกมาแล้ว เกิดปาฏิหาริย์ของแสงที่เปล่งประกายออกมาจากในสมบัติบางอย่างที่สำคัญ โดยเฉพาะพระแสงขรรค์ชัยศรี ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ และขณะเดียวกันบรรยากาศของท้องฟ้าก็เกิดวิปริตแปรปรวนจนฟ้าฝ่าทำให้แต่ละคนต้องรีบหนีออกจากพื้นที่ แต่เมื่อครั้นกลับไปถึงบ้านแล้วกลับกลายเป็นว่าแต่ละคนเริ่มเห็นภาพหลอนหลายสิ่งหลายอย่างจนบางคนก็เสียสติไปเลย เช่น บางคนเสียสติไปรำดาบอยู่กลางตลาด บางคนก็ถูกปฏิเสธจากร้านที่รับซื้อสมบัติไว้และเกิดล้มเลิกกิจการไป ซึ่งของกลางที่ขโมยเอาไปนั้นปัจจุบันได้คืนมาเพียงแค่ร้อยละ 20 เท่านั้น และจัดแสดงไว้ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา และบ้างก็มีผู้พบเห็นร่างผู้ชายตัวสูงใหญ่ล่ำสันผิดมนุษย์ธรรมดาทั่วไป แต่งกายเหมือนนักรบโบราณ สวมเสื้อแขนกระบอกกางเกงขาลีบ ๆ สั้น ๆ สีน้ำเงินเข้มทั้งชุด มีแขนใหญ่และลำคอใหญ่ แต่ทว่าไม่มีส่วนศีรษะที่วัดกุฎีดาวในขณะที่บังเอิญไปสำรวจแล้วพบของล้ำค่าบางอย่างที่ดูมีอายุมากจนต้องรีบออกจากวัดโดยไม่นำอะไรติดตัวไป ซึ่งชาวอยุธยาเชื่อว่าเป็น “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days