พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ ในสมัยก่อนเรามักจะพบเจอกับประสบการณ์เล่าเรื่องผีที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางในรูปแบบของทางน้ำเป็นส่วนใหญ่ ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ประสบการณ์เล่าเรื่องผีที่เกิดขึ้นขณะเดินทางบนรถยนต์มีความหลากหลายมากขึ้น ด้วยมีถนนหลายเส้นในเมืองไทยที่สภาพแวดล้อม ชุมชน กับผู้คนพบเจออุบัติเหตุที่แตกต่างกันจนรอให้ผู้เล่าหลายคนมาจูนติดกับพวกเขาเพื่อขอความช่วยเหลือซึ่งทุกคนก็มักจะคิดว่า วิญญาณเหล่านั้นออกมาหลอกหลอน แต่ความจริงวิญญาณที่ออกมาหลอกหลอนมีน้อยมาก และมักจะมาหลอกด้วยสาเหตุที่ตรงกัน คือ หากไม่หวงที่ก็ต้องมีความแค้นกับบุคคลที่ลักษณะใกล้เคียงกับคนที่ฆ่าพวกเขาก่อนตายหรือมาอยู่ในจุดที่เหมือนกันทำให้วิญญาณไม่ชอบ แต่ถึงแม้เรื่องเล่าบนท้องถนนจะเป็นความตื่นเต้นแค่ไหน ทว่าหากคุณได้ลองฟังการเจอผีขณะเดินทางในเส้นทางน้ำแล้วล่ะก็อาจจะรู้สึกว่า การเจอผีบนท้องถนนกลายเป็นเรื่องเด็ก ๆ ไปเลย แม้จะไม่หลากหลาย แต่ความหลอนนั้นมากเป็นเท่าทวีคูณเลย วันนี้เราจึงอยากพาคุณมาอ่านประสบการณ์สยอง “เขื่อนประตูผี” จากผู้เล่าท่านหนึ่งที่โด่งดังมากในรายการผียุคอดีต
เรื่อเล่าประสบการณ์สยอง “เขื่อนประตูผี”

ประสบการณ์สยองเขื่อนประตูผี ได้บอกเล่าเรื่องราวย้อนไปเมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ผู้เล่าใช้นามสมมุติว่า “คุณ A” ได้พบเจอประสบการณ์ขนหัวลุกใกล้บ้านของตัวเองมาจนภาพยังคงติดตาถึงวันนี้ โดยคุณ A เล่าว่า บ้านของตนอยู่ในหมู่บ้านแถวพุทธมณฑล ซึ่งมีสภาพแวดล้อมเป็นสวนลึกเข้าไปติดคูคลอง ต้องพายเรือเข้าไปเท่านั้น ทำให้มีบ้านแค่เพียงประปรายตามสวนริมน้ำ นาน ๆ จะมีเรือของชาวบ้านผ่านมา ซึ่งก็มักจะเป็นคนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านชุมชนเขา จึงเป็นเส้นทางที่ค่อนเปลี่ยว มีถนนเล็ก ๆ ให้รถพอเข้าไปได้ แต่แท๊กซี่ก็จะไม่กล้าเข้าไปนัก
วันหนึ่ง ตอนที่คุณ A กลับจากโรงเรียนก็ได้เจอทีมกู้ภัยที่มามุงอยู่หน้าประตูเขื่อนของหมู่บ้าน โดยตรงประตูเขื่อนจะเป็นทางน้ำหักศอก และน้ำวนแรงมาก หากพลาดมาน้ำจะดูดเรือที่พายเข้าไปหมุนแตกได้เลย คุณ A จึงเข้าไปถามกู้ภัยจนได้เรื่องมาว่า วันนี้เพิ่งคนตาย และกู้ภัยบางส่วนก็กำลังใช้เชือกเส้นใหญ่ ๆ สองเส้นผูกตัวเพื่อลงไปเอาศพ เนื่องจากน้ำวนแรงมาก ตรงนี้ไม่ได้มีคนตายแค่ศพแรก แต่ตายมาหลายรายแล้ว ลักษณะเหมือนต้องการตัวตายตัวแทน ด้วยความที่เป็นเรื่องปกติทำให้คุณ A ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรนักจึงกลับบ้านไป
จนมาถึงในวันหนึ่งที่คุณ A ก็ได้กลับมาจากเรียนปกติ แล้วลงเรือที่ผูกไว้ก่อนจะพายไปตามลำน้ำเข้าสู่คูคลองเพื่อตรงไปยังบ้านตัวเอง และต้องผ่านประตูเขื่อนดังกล่าวด้วย ในขณะที่เรือของคุณ A เคลื่อนผ่านจุดที่เป็นประตูเขื่อนไปเล็กน้อยจนเข้าเขตที่สองฟากฝั่งเป็นสวนป่าแล้ว เขาก็เริ่มได้ยินเสียงเหมือนมีคนพายเรือมาข้างหลังแบบที่ไม่ห่างกันนัก แต่คุณ A ก็ไม่ได้หันไปมอง และแอบรู้สึกอุ่นใจที่มีเพื่อนร่วมทาง แต่พอเอาไม้พายพักบนเรือ เรือข้างหลังก็เงียบเหมือนกัน แต่พอเอาไม้พาย พายเรือต่อ เสียงเรือข้างหลังก็พายด้วย จนเรือใกล้ถึงบ้าน ด้วยความแปลกใจที่เหตุการณ์เป็นเช่นนี้สลับไปมาตอนเขาพักเรือบ้างพายเรือบ้าง

ในที่สุดคุณ A จึงตัดสินใจหันกลับไปมองและก็ต้องขนลุกตกใจสุดขีด เมื่อภาพข้างหลังที่เขาเห็นไม่ใช่คนที่อยู่บนเรือ หากแต่เป็นผู้หญิงผมยาวปิดบังใบหน้านั่งเรือที่ลักษณะเหมือนโลงศพกำลังใช้มือที่ใหญ่กว่าใบพายจ้วงน้ำเพื่อให้เรือโลงศพเคลื่อนตามเขามาข้างหน้า เขาจึงรีบพายเรืออย่างรวดเร็วเท่าที่จะพายได้และเสียงพายข้างหลังก็ดูจะเร่งพายด้วยเหมือนกับต้องการตามเขาให้ทัน
กระทั่งอีกร้อยเมตรเขาก็ได้พายมาจวนถึงหน้าบ้านตัวเอง ตอนนั้นน้าของคุณ A ที่รออยู่ศาลาท่าน้ำก็ได้เห็นภาพดังกล่าวจึงทำหน้าเหวอและรีบกระโดดลงมาดึงหัวเรือของคุณ A ลากเข้าไปทันทีที่เรือของคุณ A มาเทียบท่าน้ำของบ้านและดึงมือคุณ A ขึ้นไปบนศาลาทันที พร้อมบอกคุณ A ว่าอย่าหันไปมอง ก่อนจะรีบขึ้นไปบนบ้านพามาเข้าห้องพระพร้อมนำพระมากอด ซึ่งทั้งน้าและคุณ A ต่างก็บอกสับสนว่าวิญญาณตนดังกล่าวเป็นใครและต้องการอะไรกันแน่
วันรุ่งขึ้น ทั้งสองจึงรีบเดินทางไปหาพระที่วัดใกล้บ้าน พระจึงให้คุณ A อยู่ในโบสถ์ 3 วัน แล้วเอาสายสิญจน์ล้อมด้วย แล้วจะให้เณรมาเฝ้าคืนละรูป ไม่เช่นนั้นคุณ A จะโดนผีตนนั้นเอาชีวิตได้ หลังจากนั้นพอตกกลางคืนคุณ A ก็จะได้ยินเสียงคนพายเรืออยู่ท่าน้ำของวัดทุกคืนจนนอนไม่ค่อยหลับ ยิ่งพอคืนสุดท้าย ไม่ใช่แค่เพียงเสียงพายเรือ แต่ยังตามมาด้วยเสียงเรียกชื่อ A ด้วย จากในโบสถ์สามารถมองเห็นท่าน้ำของวัดได้ ทุกคนจึงชะเง้อไปมองก็ต้องตกใจเมื่อพบว่า มีผู้หญิงที่นั่งบนเรือได้ยื่นคอยาว ๆ โผล่พ้นจากศาลาท่าน้ำออกมาโดยใบหน้าของเธอซีด ไม่มีลูกตา และแสยะยิ้มอยู่ ทั้งพระทั้งเณรจึงรีบปิดประตูโบสถ์หมดแล้วมารวมกันอยู่ในสายสิญจน์ที่เดียวกันพร้อมตะโกนลั่นว่า…ช่วยด้วย ๆ ซึ่งพอดีกับที่มีคนเดินมา 4 คนเป็นกรรมการและลูกศิษย์วัด เมื่อพวกเขามองไปที่ท่าน้ำก็เห็นเป็นผู้หญิงคนดังกล่าวพายเรือหนีไปอย่างเร็ว จนกระทั่งเช้าวันต่อมา หลวงพ่อก็เข้ามาในโบสถ์ และบอกคุณ A ว่า “เอ็งพ้นแล้วแหละเค้าไปเอาคนอื่นแทนแล้ว” ทำให้คุณ A รู้สึกโล่งใจ แต่ประสบการณ์นี้ก็คงเป็นสิ่งที่ติดตาเขาอย่างไม่มีวันลืมเลย! พอใกล้รุ่งสาง น้าของคุณ A ก็มาที่วัด และบอกว่ามีคนตายที่หน้าประตูเขื่อน

ข้อคิดจากประสบการณ์สยองเขื่อนประตูผี
ประสบการณ์สยองเขื่อนประตูผี ได้ให้ข้อคิดที่อยากบอกทุกคนว่า การอยู่กับแหล่งน้ำต้องมีสติให้มากไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม โดยเฉพาะเวลาที่เราอยู่บนเรือ การควบคุมเรือและการสำรวจพื้นที่บริเวณน้ำที่เราจะนำเรือเคลื่อนผ่านไปว่าปลอดภัยหรือไม่ย่อมเป็นสิ่งสำคัญมาก ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days