พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ เชื่อว่าทุกคนย่อมต้องรู้จัก “แม่นาคพระโขนง” ผีแม่ลูกอ่อนของไทยเราที่มีเรื่องเล่ามาตั้งแต่สมัยโบราณเรื่องการรอคอยให้สามีของเธอกลับมาที่บ้านและอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบครอบครัวอีกครั้ง คำสัญญานี้จึงทำให้แม่นาคไม่สามารถไปไหนได้และยังรอคอยพี่มากอยู่ จนเกิดคำพูดติดปากของหลายคนในยุคปัจจุบันว่า “ฉันมารอพี่ที่ท่าน้ำทุกวันเลยนะ” แต่ใครบ้างจะรู้ว่า เรื่องราวของแม่นาคพระโขนงนั้นเป็นเรื่องจริงที่ไม่ใช่แค่ตำนานของบางพระโขนง กรุงเทพมหานครที่ยังมีลมหายใจอยู่เท่านั้น แต่เป็นเรื่องราวที่ผู้เฒ่าผู้แก่ซึ่งเกิดทันในยุคที่แม่นาคกับพี่มากยังคงมีชีวิตอยู่ได้บอกเล่าสืบต่อกันมาจนถึงยุคนี้ตามที่ตาตัวเองเห็นมาจริง ๆ และ “พีท ทองเจือ” ดาราชายชื่อดังของประเทศไทยก็เป็นเหลนโหลนของเครือพี่น้องแม่นาคด้วย ซึ่งเรื่องราวที่มีความจริงที่สุดเกี่ยวกับแม่นาคพระโขนงจะเป็นอย่างไรมาอ่านกันเลย
เรื่องราว “แม่นาคพระโขนง”

“ตำนานแม่นาคพระโขนง” เป็นเรื่องราวความรักที่ไม่มีวันตายแม้จะสิ้นลมหายใจจากกันไปแล้วของ “นางนาค” กับ “นายมาก” สามีภรรยาหนุ่มสาวที่อาศัยอยู่ด้วยกันในหมู่บ้านชุมชนบางพระโขนงย้อนไปในช่วงรัชกาลที่ 3 ทั้งสองใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างพอมีพอกิน จนนางนาคตั้งครรภ์อ่อน ๆ นายมากก็มีหมายเรียกให้ไปเป็นทหารประจำการที่บางกอก นางนาคจึงให้สัญญาว่าจะรอนายมากกลับมาหาที่บ้านของเราก่อนจำใจจากลาไปทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมือง นางนาคจึงต้องอยู่ตามลำพัง
เวลาผ่านไป ท้องของนางนาคก็ยิ่งโตขึ้นเรื่อย ๆ จนครบกำหนดคลอด หมอตำแยก็มาทำคลอดให้ ทว่าลูกของนางนาคไม่ยอมกลับหัว นางจึงไม่สามารถคลอดลูกออกมาตามธรรมชาติได้ง่ายอย่างปกติ ทำให้ให้นางนาคเจ็บปวดเป็นยิ่งนัก จนทนไม่ไหวสิ้นใจไปพร้อมกับลูกในท้อง
หลังจากนั้น ศพของนางนาคก็ได้ถูกนำไปฝังไว้ยังป่าช้าท้ายวัดมหาบุศย์ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทุกคนที่พายเรือผ่านบ้านของนางนาคก็มักจะได้ยินเสียงเพลงเห่กล่อมเด็ก บ้างก็เห็นนางนาคมายืนอุ้มลูกอยู่ที่ท่าน้ำตั้งแต่ช่วงที่พระอาทิตย์คล้อยลับฟ้าเพื่อรอคอยนายมาก ทำให้นับแต่นั้นไม่มีชาวบ้านคนใดกล้าเดินทางในช่วงค่ำจนถึงเช้ามืดเลยทั้งคนในชุมชนบางพระโขนงและชุมชนใกล้เคียงที่ต้องใช้เส้นทางคลองเดียวกัน
กระทั่งนายมากได้ปลดประจำการและกลับมาที่บ้านช่วงดึกก็ได้พบกับนางนาคที่รออยู่แล้ว ทำให้เขาดีใจและใช้เวลาอยู่กับนางนาคตลอดทั้งคืน โดยที่ยังไม่ทราบความว่า ภรรยาของตัวได้เสียชีวิตแล้ว และหลังจากนั้น ในวันต่อ ๆ มา นางนาคก็มักจะคอยพยายามรั้งไม่ให้นายมากออกจากบ้านเพื่อไม่ให้เขาไปพบชาวบ้านและรู้ว่า ตนเสียชีวิตแล้ว แต่สุดท้ายเขาก็มีเหตุให้ต้องออกจากบ้านแล้วพบเจอชาวบ้านอยู่ดี ทว่าเขาก็ไม่เชื่อแม้ใครจะบอกว่า นางนาคเสียชีวิตไปแล้ว จนวันหนึ่งขณะที่นางนาคตำน้ำพริกอยู่บนบ้าน นางก็ได้ทำมะนาวตกลงไปใต้ถุนบ้าน ด้วยความรีบร้อน นางจึงเอื้อมมือยาวลงมาจากร่องบนพื้นเรือนเพื่อเก็บมะนาวที่อยู่ใต้ถุนบ้าน โดยขณะนั้นนายมากก็อยู่ใต้ถุนพอดีจึงเห็นเข้าจึงรู้ว่า นางนาคเป็นเสียชีวิตและเป็นผีจริง ๆ ดังที่ชาวบ้านบอก

ด้วยความตกใจตามสัญชาตญาณของมนุษย์ นายมากจึงวางแผนหลบหนีผีนางนาค โดยการแอบเจาะตุ่มใส่น้ำให้รั่วแล้วเอาดินอุดไว้ และตกกลางคืนก็ทำทีว่าตัวเองจะไปปลดทุกข์เบา ก่อนจะลงไปแล้วแกะดินที่อุดตุ่มไว้ให้น้ำไหลออกเหมือนคนปลดทุกข์เบาทำให้นางนาคชะล่าใจ จากนั้นนายมากจึงแอบหนีไป นางนาคที่เห็นว่าเขาไปปลดทุกข์นานเกินจึงออกมาดูทำให้รู้ว่าตัวเองโดนหลอก จึงตามนายมากไปที่วัด พร้อมกับชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งที่ช่วยเหลือเขาก็มาอยู่บนศาลาการเปรียญด้วย ด้วยความเจ็บใจชาวบ้านที่คอยยุแยงตะแคงรั่วสามีตัวเองและความเสียใจที่สามีกลัวเธอ ทำให้นางนาคออกอาละวาดหลอกหลอนชาวบ้านจนหวาดกลัวกันไปทั้งบาง ซึ่งพระผู้มีวิชาก็ได้ทำการปราบนางนาคและจับใส่หม้อถ่วงน้ำ ทว่าสุดท้ายก็มีตากับยายเปิดยันต์ในหม้อออกจนวิญญาณนางนาคหลุดออกมาได้ แต่นางก็ถูกสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สยบลงได้อีกครั้ง และได้ทำการปลดปล่อยดวงวิญญาณของนางนาคพร้อมสั่งสอนจนวิญญาณของนางได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี แต่ว่ากันว่า นางก็ยังคอยเวียนไปมาระหว่างภพภูมิของนางกับที่เดิมเพื่อคอยอนุโมทนาบุญกับนายมากที่บวชให้นาง จนนางได้มาอยู่ที่วัดมหาบุศย์บ่อย ๆ และคอยช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนด้วย
สถานที่ขอพรกับ “แม่นาคพระโขนง”

“ตำนานแม่นาคพระโขนง” ดวงจิตของท่านเวลานี้ได้สถิตอยู่ที่ “วัดมหาบุศย์” ซึ่งเป็นวัดในย่านพระโขนง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีการตั้งศาลย่านาคพร้อมเครื่องบูชามากมายไว้ให้ท่านคอยดูแลวัดและคนทั่วประเทศก็มักจะหาโอกาสมาขอพรกับย่านาคพร้อมบนบานอยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาบนบานและขอพรในด้านความรักและการเกณฑ์ทหารสำหรับคนที่ไม่อยากจะเข้ารับการเกณฑ์ก็มักจะสัมฤทธิ์ผลบ่อย ๆ แถมยังรวดเร็วด้วย ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days