พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อในเวลากลางคืนที่เราเดินทางไกลแล้วคิดว่า การขับรถข้ามจังหวัดจะเป็นไปแบบสบาย ๆ ชิลล์ ๆ บนท้องถนนที่รถน้อย มีแต่ความเงียบสงบ ไม่วุ่นวายกับการที่ต้องคอยควบคุมความเร็วของรถที่เคลื่อนตัวไปตามถนนสายยาวเพื่อให้ถึงปลายทางทันในเวลาที่กำหนด แดดก็ไม่ร้อน ทุกอย่างมันคงดีไปหมดหากไม่เกิดเรื่องราวชวนหลอนของสิ่งเหนือธรรมชาติก่อน เพราะอย่าลืมว่าการขับรถในเวลากลางคืนเป็นเวลาที่ทุกคนชื่นชอบกันมากจริง ๆ แม้ทัศนียภาพจะไม่ชัดเจนเท่ากับในตอนกลางวัน แต่ก็สามารถฟังเพลงท่ามกลางความเงียบสงบได้ แต่เพราะความมืดของเวลาที่ยาวนานหลายชั่งโมงจึงเป็นเวลาที่พลังงานของเหล่าภูติผีและดวงวิญญาณจะปรากฏออกมาให้คุณเห็นได้ชัดเจนที่สุดเหมือนกัน ยิ่งบนถนนทางหลวงอย่างถนนสายเอเชียด้วย บอกเลยว่าอุบัติเหตุต่าง ๆ ย่อมจะเคยเกิดขึ้นในทุกจุดและมีดวงวิญญาณเยอะมาก ซึ่งวันนี้เราก็จะขอนำเรื่องเล่าบนถนนสายเอเชียจากผู้เล่าทางบ้านอย่างเรื่อง “ผีขอติดรถ” มาบอกเล่าประสบการณ์ที่ทำให้คุณต้องระวังเรื่องการรับคนแปลกหน้าขึ้นรถในยามวิกาลกันมากขึ้นกัน!
เรื่องเล่าประสบการณ์ “ผีขอติดรถ”

ประสบการณ์ “ผีขอติดรถ” ได้บอกเล่าเรื่องราวเมื่อสิบกว่าปีก่อนของผู้เล่าที่กำลังขับรถเดินทางจากกรุงเทพมหานครเพื่อจะไปทำธุระที่จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ ระหว่างทางขณะที่รถของเขากำลังขับมาบนถนนสายเอเซียจนใกล้ถึงแยกเข้าไปยังจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สายตาของเขาก็ได้ไปเห็นชายหญิงคู่หนึ่งที่เป็นวัยรุ่นแต่งชุดแบบนักท่องเที่ยว ใส่เสื้อกันหนาวกับกางเกงพร้อมกระเป๋าแบ็คแพ็คที่หลังกำลังโบกมือเรียกรถอยู่ในศาลาริมทาง ผู้เล่าที่แอบกังวลใจแทนว่าเวลานี้ก็ค่ำแล้วยังมีคนมาโบกหารถอยู่แบบนี้จะอันตรายกับพวกเขาได้ เขาจึงได้จอดรถเข้าไปเทียบหน้าศาลาก่อนจะเปิดกระจกถามว่า
“พวกน้องจะไปไหนกันเนี่ย มืดค่ำแล้วนะ!”
“พวกหนูจะไปเยี่ยมญาติในจังหวัดนครสวรรค์ค่ะ ต้องไปให้ทันภายในคืนนี้ แต่ไม่มีรถคันไหนรับพวกหนูเลย” ผู้หญิงตอบเขาทันทีด้วยสีหน้ากังวล
ผู้เล่ามองแล้วก็เห็นว่าพวกเขาสองคนทั้งชายหญิงก็ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ หน้าตาท่าทางก็ดูเหมือนคนปกติ แต่งตัวก็ดี ไม่น่าจะใช่โจร อีกทั้งยิ่งพอเห็นสีหน้าเคร่งเครียดของทั้งคู่ก็เข้าใจว่า เวลาค่ำแบบนี้ รถเที่ยวสุดท้ายที่จะไปนครสวรรค์คงหมดแล้ว บวกกับที่ตัวผู้เล่าเป็นคนใจอ่อนอยู่ด้วยจึงตัดสินใจให้ทั้งสองคนติดรถไปด้วย เพราะเขาต้องขับรถผ่านตัวเมืองนครสวรรค์อยู่แล้ว โดยผู้เล่าได้ให้ทั้งคู่นั่งอยู่ที่กระบะหลังของรถเขาเพื่อที่จะสามารถลงจากรถได้ง่าย ๆ เมื่อถึงปลายทาง

เวลาผ่านไปทุกอย่างก็ปกติดี สิ่งที่น่าแปลกเล็กน้อยก็คงเป็นท่าทางของชายหญิงที่นั่งคนละฝั่งของกระบะ แต่กลับมองหน้ากันนิ่ง ๆ แบบตาไม่กะพริบ ไม่พูดอะไรกันเลย แม้แต่จะเปลี่ยนท่านั่งก็ไม่มี จนรถของเขาขับเข้ามาจอดในปั๊มน้ำมันแถวจังหวัดสิงห์บุรีเพื่อเข้าห้องน้ำ ผู้เล่าก็ยังถามทั้งคู่ว่า จะไปซื้อของกินกันก่อนไหม อีกสักพักเลยกว่าจะถึงที่หมาย แต่พวกเขาก็ทำเพียงแค่ยิ้มและส่ายหน้าเท่านั้น
หลังเสร็จจากภารกิจส่วนตัวแล้ว เขาก็ได้ขับรถต่อไปจนกระทั่งเข้าสู่เขตนครสวรรค์ สองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในท่าเดิม กระทั่งความขนลุกก็ได้เกิดขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว เมื่อรถของเขาขับเลยศาลเจ้าพ่อเขาเขียวที่อยู่ริมถนนสายเอเซียมาเล็กน้อย เสียงเคาะกระจกจากกระบะหลังก็ดังขึ้น เขาจึงหันไปมองกระจกที่ส่องเห็นด้านหลังก็พบว่า คนทั้งสองที่นั่งอยู่บนรถกำลังเคาะกระจกของเขาพร้อมพูดด้วยเสียงที่ดังว่า “ส่งพวกเราลงตรงนี้เลยก็ได้ ตอนนี้ถึงเขตที่เราสามารถไปเองต่อได้แล้ว ขอบคุณพี่มากนะ”
แม้ผู้เล่าจะแอบสงสัยว่า ทำไมเสียงของทั้งสองถึงดังราวกับอยู่ในรถและทำไมถึงจะลงริมทางที่มืด ๆ แบบนี้ แต่ด้วยความเป็นห่วงที่มากกว่า ผู้เล่าจึงได้หันไปมองทางข้างหน้าต่อพร้อมตะโกนบอกว่า “ไม่เป็นไรน้อง พี่ต้องเข้าเมืองอยู่แล้ว เดี๋ยวพาไปส่งที่สี่แยกกลางเมืองเลย จะได้หารถไปบ้านญาติสะดวก” ทว่าจบคำกลับไม่มีเสียงใครตอบกลับมา ผู้เล่าจึงมองกระจกหลังอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขากลับต้องตกใจสุดขีดเมื่อพบว่า หลังกระบะไม่มีใครอยู่เลยสักคน เขาจึงรีบเข้าไปจอดรถข้างทางและเดินอ้อมไปดูด้านหลังก็พบว่า กระบะมีแต่ความว่างเปล่า! ตอนนั้นเองที่เขารู้ว่า ตัวเองคงโดนผีหลอกแล้วจึงรีบกลับขึ้นรถจนเมื่อตั้งสติได้ก็ออกเดินทางต่อแม้ว่าใจจะยังกลัวอยู่ แต่สุดท้ายเขาก็ไปถึงปลายทางจังหวัดในภาคเหนือได้ทันเวลาสำเร็จ ประสบการณ์นี้คงทำให้เขาจดจำตลอดไปเลย!

ข้อคิดจากประสบการณ์ผีขอติดรถ
ประสบการณ์ผีขอติดรถ ได้ให้ข้อคิดว่า การจะรับคนแปลกหน้าขึ้นรถ คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่า เขาเป็นมาจากไหน เป็นใคร เพื่อดูว่าเขาไม่ใช่คนที่มุ่งร้ายต่อคุณจริง ๆ เพราะในยามวิกาลที่มีรถขับน้อย หากเป็นคนไม่ดีขึ้นมาก็ย่อมจะเข้าถึงตัวคุณได้ง่ายมากแบบที่ไม่สามารถหาคนรอบตัวมาช่วยได้ หรือหากเป็นผีแล้วถูกหลอกด้วยวิธีที่น่ากลัวก็อาจทำให้อันตรายถึงขั้นเกิดอุบัติเหตุได้เช่นกัน ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days