พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ เดี๋ยวนี้เรามักจะเห็นบ่อยมากกับคนมากมายที่ยังคุยยังเห็นเขาสุขภาพร่างกายแข็งแรงพูดคุย ทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างกระฉับกระเฉง แต่จู่ ๆ พอมาอีกวันหนึ่งเรากลับได้รับข่าวมาว่า “เขาเสียชีวิตแล้ว!” ซึ่งสาเหตุของการเสียชีวิตก็มาจากการ “ไหลตาย” ซึ่งเป็นอาการที่คนคนหนึ่งนอนหลับแล้วหยุดหายใจเสียชีวิตลงไปเอง โดยทางการแพทย์ได้อธิบายว่า สาเหตุของการไหลตายนั้นมาจากภาวะที่เกิดลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน ทำให้เลือดไหลไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจได้ไม่เพียงพอ จนเกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดและทำให้เสียชีวิตในที่สุด แต่ในความเชื่อของชาวไทยเรากลับมองในอีกแง่มุมว่า หารไหลตายเกิดจากการที่มีคนคนนั้นหมดอายุขัยแล้วจึงมีผู้มารับดวงวิญญาณให้ออกจากร่างไปเพื่อเปลี่ยนภพภูมิตามผลบุญและผลกรรมที่แต่ละคนทำมา จึงทำให้ผู้นั้นเสียชีวิตลงโดยไม่มีโรคประจำตัวใด ๆ เลย ซึ่งความเชื่อนี้ก็มาสัมพันธ์กับ ประสบการณ์สุดหลอน ไหลตายที่ผู้เล่าทางบ้านคนหนึ่งได้เจอมาในวัยหนุ่มและไม่เคยลืมเลย!
เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง ประสบการณ์สุดหลอน ของผู้ไหลตาย

ประสบการณ์สุดหลอน “ไหลตาย” ได้บอกเล่าเรื่องราวของคุณอ่ำ (นามสมมุติ) ในวัยหนุ่มที่บ้านของเขามีสภาพเป็นเรือนแพอยู่ในจังหวัดหนึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพมหานครนัก ชีวิตของเขาก็ดำเนินไปปกติ ว่างก็มักจะช่วยครอบครัวหาเลี้ยงชีพจากการจับปลาไปส่งขายตามตลาด พอเสร็จจากงานก็ค่ำพอดี มากินข้าว ทำภารกิจส่วนตัว และนอนเร็วเช่นนี้เป็นประจำ จนกระทั่งคืนหนึ่ง จู่ ๆ คุณอ่ำก็รู้สึกนอนไม่หลับจึงได้แต่นอนมองเพดานด้วยคิดว่าอีกสักพักเดี๋ยวก็คงจะหลับไปเอง แต่จู่ ๆ หูของเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนพายเรือผ่านหน้าบ้านของเขาไป ทำให้เขาเกิดความสงสัยว่า “ดึกดื่นเที่ยงคืนขนาดนี้แล้ว แถมหมอกก็เริ่มลงตามแม่น้ำด้วย ใครมาพายเรือตอนนี้กัน อันตรายนะเนี่ย”
ด้วยความที่นอนไม่หลับปนสงสัย คุณอ่ำจึงได้เดินออกจากห้องตัวเองและไปยังบริเวณท่าน้ำของแพเพื่อดูว่า เป็นเพื่อนบ้านคนไหนของเขาที่พายเรือผ่านไป แต่แล้วสิ่งที่เขาได้เห็นก็ทำให้ขนทั้งตัวถึงกับลุกชันทันที…ห่างจากบ้านเรือนแพของคุณอ่ำไปประมาณไม่กี่หลัง มีเรือพายลำหนึ่งที่เพิ่งเคลื่อนตัวมาจอดเทียบท่าน้ำ และผู้คนในเรือลำนั้นก็มีผู้ชายสามคนที่แต่งตัวแปลกราวกับคนสมัยก่อน คนหนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อและโจงกระเบน โดยท่อนบนมีเสื้อคลุมไหล่ยาวจนถึงพื้นเรือ ส่วนอีกสองคนที่ทำหน้าที่พายเรือคนละฝั่งหัว – ท้ายมีร่างกายสันทัดผิวสีแดงเพลิง ท่อนบนไม่สวมเสื้อผ้าใด ๆ มีแค่เพียงท่อนล่างที่เป็นโจงกระเบนเท่านั้น!
ทันทีที่เรือลำนั้นจอดสนิทที่ท่าน้ำแพบ้านหลังนั้น ชายสองคนที่นุ่งแค่โจงกระเบนก็เดินขึ้นท่าและเข้าไปยังบ้านหลังนั้น คุณอ่ำทำได้แค่มองด้วยความช็อกขาแข็งจนก้าวไม่ออก แม้แต่เสียงร้องก็ยังร้องไม่ออก และเพียงสักพัก ชายสองคนนั้นก็ออกมาจากบ้านพร้อมกับ “ลุงมี (นามสมมุติ)” ที่เขาจำได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งลุงมีทำได้แค่เพียงก้มหน้าเดินลงมายังเรือด้วยความเศร้าก่อนที่เรือลำนั้นจะออกตัวพายออกจากท่าหน้าบ้านของลุงมีแล้วหายไปกับสายหมอกที่จู่ ๆ ก็หนาขึ้น จากนั้นคุณอ่ำที่เริ่มมีสติก็สะดุ้งตื่น! ใช่แล้ว ตอนนี้เขานอนอยู่บนที่นอนและตอนนี้ก็เป็นเวลาสาย เหตุการณ์เมื่อคืนที่เจอจึงทำให้เขาแอบหัวเสียและคิดว่าฝันอะไรกัน…น่ากลัวชะมัด

แต่ขณะที่เขากำลังเก็บที่นอนอยู่นั้น แม่ของเขาก็รีบเดินเข้ามาในห้องพร้อมตะโกนบอกว่า “ทำไมตื่นสายขนาดนี้ รู้หรือเปล่าว่าตอนนี้คุ้งน้ำเราเขากำลังเดือดร้อนกันอยู่ นอนสบายใจไม่รู้เรื่องเลย รีบตามแม่มาเร็ว!”
ด้วยความสงสัยว่าเกิดเรื่องอะไรใหญ่โตขึ้นจึงทำให้แม่ของเขามีสีหน้ากังวลขนาดนี้ คุณอ่ำจึงรีบเก็บที่นอนจนเสร็จก็ออกมายังท่าน้ำพร้อมกับแม่ที่กำลังยืนชะเง้อมองเหตุการณ์บางอย่างอยู่ เมื่อคุณอ่ำมองตามก็แม่ของเขากำลังมองไปยังท่าน้ำเรือนแพบ้านของลุงมีที่ตอนนี้เต็มไปด้วยชาวบ้านที่มายืนปลอบภรรยาและลูก ๆ ของลุงมีซึ่งกำลังร้องไห้อยู่ เขาจึงได้ถามแม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งแม่ก็ได้ให้คำตอบที่ทำให้คุณอ่ำถึงกับขนลุกอีกครั้ง
“ก็ลุงมีน่ะสิ นอนหลับแล้วเสียชีวิตไปกะทันหันเลย ช่วงเช้าตรู่ภรรยาเห็นว่าแกนอนหลับนานผิดปกติเลยมาปลุกก็พบว่าแกตัวเย็นและไม่หายใจแล้ว เห็นกันอยู่แท้ ๆ ไม่น่าเลย แกออกจากแข็งแรงนะเนี่ย แม่ว่าจะไปเป็นกำลังใจให้ครอบครัวแกหน่อย เดี๋ยวเราไปช่วยแม่เข้าครัวทำของกินให้แกหน่อยนะ”
คำตอบของแม่ทำให้คุณอ่ำได้รู้ว่า เหตุการณ์ที่เขาเจอเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน หากแต่คนบนเรือคงเป็นยมทูตที่มารับตัวลุงมีไปเพราะหมดอายุขัยแล้ว และดวงเขาก็อาจจะไปจูนติดกับสิ่งนี้เข้าพอดีจึงได้เห็น! นี่จึงเป็นประสบการณ์หลอนไหลตายที่เขาจะไม่มีวันลืมเลย

ข้อคิดจากประสบการณ์สุดหลอน “ไหลตาย”
ประสบการณ์สุดหลอน “ไหลตาย” ได้ให้ข้อคิดแก่เราว่า ไม่มีใครหยั่งรู้ได้ว่า วันตายที่แท้จริงของเราจะมาถึงเมื่อไหร่ อาจจะวันนี้ พรุ่งนี้ หรือนานกว่านี้ก็ได้ ฉะนั้นในวันนี้ที่คุณมีลมหายใจอยู่จึงควรเร่งสร้างบุญกุศลทำความดีเข้าไว้และหากยังไม่เคยทำอะไรให้ตัวเองมีความสุขตามที่อยากทำ โอกาสมีแล้วคุณก็จงรีบทำเถิด เพราะ…พรุ่งนี้อาจไม่มีจริงก็ได้ ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days