พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ หากจะกล่าวถึงหนึ่งในประเทศที่มีความเชื่อในเรื่องของเทพเจ้าซึ่งมีความขลังและแปลกที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลกล่ะก็ “ประเทศอียิปต์” ย่อมเป็นอีกหนึ่งประเทศที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของเทพเจ้ามากมายที่มีผลต่อวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม สถาปัตยกรรม และการปกครองที่จริงจังตั้งแต่อดีตกาลมาจนถึงปัจจุบัน ผู้คนอียิปต์ก็ยังคงมีความเชื่อในเรื่องของเทพเจ้าสำคัญต่าง ๆ ที่มีความพิเศษแตกต่างจากเทพเจ้าของชนชาติอื่นตรงที่ เทพเจ้าของอียิปต์จะมีครึ่งบนเป็นหัวสัตว์และครึ่งล่างมีร่างกายเป็นมนุษย์ ซึ่งสัตว์ที่ชาวอียิปต์นับถือเป็นเทพเจ้าก็มักจะเป็นสัตว์ที่พบเจอตามทรัพยากรธรรมชาติของประเทศอียิปต์ได้เยอะ เช่น จระเข้ นก สิงโต และอื่น ๆ อีกมากมาย และหนึ่งในเทพเจ้าที่มีบทบาทด้านประเพณีและขนบธรรมเนียมของอียิปต์ก็คือ “เทพอานูบิส” หรือ “เทพแห่งความตาย” ที่มีหัวเป็นหมาในสีดำ และท่อนล่างเป็นร่างกายมนุษย์ มักดูแลภายในสุสานต่าง ๆ ของอียิปต์และส่งดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตเสมอ ซึ่งหากรู้จักมากกว่านี้ว่า เรื่องเทพอานูบิส มีบทบาทอย่างไรต่ออียิปต์มาอ่านกันเลย
ทำความรู้จักกับ “เรื่องเทพอานูบิส”

“เทพอานูบิส” เป็นโอรสของเทวีเนฟทิส และเทพเซต มีหัวเป็นหมาในสีดำ และท่อนล่างเป็นร่างกายมนุษย์ มีวิถีการใช้ชีวิต คือ เวลากลางวันจะพักผ่อน และออกมาทำภารกิจของตัวเองในเวลากลางคืนแถบทะเลทรายใกล้สุสานจนถึงตามสุสานทุกแห่งของอียิปต์ที่ท่านสามารถแยกจิตในการมาคอยดูแลได้และมีบริวารด้วย เทพอานูบิสเป็นเทพที่ได้รับความเคารพอย่างมากในไอยคุปต์ทะเลทรายแห่งตะวันตก ทรงเคยเป็นเทพแห่งความตายมาก่อนเทพโอซิริสและเป็นเทพแห่งความตายสำหรับฟาโรห์องค์แรก เทวีไอซิสทรงเลี้ยงพระองค์มาดั่งลูกในไส้ เมื่อโตขึ้นเทพอานูบิสจึงเป็นผู้ปกป้องพระนาง อีกทั้งเทพอานูบิสยังเป็นผู้เสาะหาน้ำมันหอมหรือยาที่หายากมาใช้ในการทำมัมมี่ศพเทพโอซิริสร่วมกับเทวีไอซิสและเทวีเนฟทิสพระมารดาด้วยตัวเองด้วย จากนั้นพระองค์ก็ได้ทรงคิดวิธีการรักษาศพทำมัมมี่เป็นรูปแบบพิธีการฝังศพประจำชาติของอียิปต์ในเวลาต่อมาจนเกิดแนวคิดต่อยอดของชาวอียิปต์ว่า “การทำมัมมี่จะสามารถรักษาสภาพศพด้วยเป้าหมายที่ในสักวันผู้ตายจะสามารถฟื้นคืนชีพได้อีกครั้ง”
หน้าที่สำคัญของ “เทพอานูบิส”

“เทพอานูบิส” มีหน้าที่นำดวงวิญญาณของคนตายเดินทางไปสู่ยมโลกด้วยความสันติเพื่อทำการตัดสินผลกรรมที่ได้ทำมาก่อนตายต่อหน้าองค์เทพโอซิริส โดยเทพอานูบิสจะนำหัวใจของผู้ตายไปวางไว้บนตาชั่งข้างหนึ่ง ส่วนอีกข้างหนึ่งของตาชั่งจะเป็นขนนกที่ได้รับมาจากเทพมูอาท หากหัวใจของผู้ตายเบากว่าขนนกแสดงว่าในขณะที่คนผู้นั้นมีชีวิตอยู่ได้กระทำการอันเป็นกุศล จึงสมควรได้รับพรจากเทพโอชิริสให้มีชีวิตอันเป็นนิรันดร์แล้วจะได้อยู่ในดินแดนที่เรียกว่า “Fields of the Reed” หรือ “สวรรค์ของชาวอียิปต์” แต่หากคนผู้นั้นที่มีหัวใจที่น้ำหนักมากกว่าขนนก สัตว์อสูรอัมมุทที่นอนรออยู่ใต้ตาชั่งก็จะกินหัวใจของดวงวิญญาณดวงนั้นทันที แล้วดวงวิญญาณนั้นก็จะสูญสลายตลอดไปไม่มีวันได้เกิดอีก และนอกจากนี้เทพอานูบิสยังเป็นผู้พิทักษ์ดูแลร่างกายของมัมมี่ในสุสานอีกด้วยโดยใช้พลังของท่านประกอบกับกระบวนการรักษาศพของมนุษย์ชาวอียิปต์
เรื่องลี้ลับจากปากของชาวอียิปต์เกี่ยวกับ “เทพอานูบิส”

ในสมัยก่อนเคยมีเรื่องเล่าลี้ลับเกี่ยวกับ “เทพอานูบิส” ที่ยังคงเป็นปริศนาไม่สามารถไขได้มาจนถึงปัจจุบันนี้ คือ เมื่อปี 1922 ที่มีการเปิดสุสานตุตันคาเมนในหุบผากษัตริย์ เมืองลักซอร์ นักโบราณคดีได้มีการนำทีมขุดค้นหลักฐานทางโบราณคดีครั้งยิ่งใหญ่ของอียิปต์ และคณะนักขุดก็ได้ไปค้นพบเทวรูปเทพอานูบิส ในลักษณะของหมาในสีดำ นอนหมอบอยู่บนหีบขนาดใหญ่มีคานหาม นี่เป็นคำเตือนถึง “ความตาย” ซึ่งผู้บุกรุกทุกคนจะต้องเผชิญ และมันก็เกิดขึ้นจริง หลังจากนั้นไม่นานที่ผู้เกี่ยวข้องการขุดค้นสุสานทุกคนได้รับชื่อเสียงและการยกย่องสรรเสริญเรื่องการค้นพบสิ่งสำคัญของชาตินี้ที่ไม่เคยมีใครเจอมาก่อน ทุกคนต่างก็พากันล้มตายด้วยโรคลึกลับในเวลาไล่เลี่ยกันทีละคน แม้แต่แพทย์ก็ไม่อาจบอกได้ว่ามันเป็นโรคใด ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days