พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ สำหรับ เรื่องเล่าผีสุดเศร้า หลาย ๆ คนคงจะเคยเจอประสบการณ์ที่ตัวเองกับคนรักที่เคยให้คำสัญญากันและรักกันมากจนจริงจังถึงขั้นจะวางแผนแต่งงานกันหากคบได้ยาวจนพร้อมทั้งคู่แล้ว สุดท้ายทุกอย่างกลับหลงเหลือแค่เพียงความทรงจำเพราะเขากับเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ ไม่ว่าจะจากเป็นเรื่องจากตายก็ล้วนแล้วแต่สร้างความเศร้าโศกเสียใจให้กับคนที่ยังรักเขาอยู่เต็มหัวใจอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะอย่างไรคนส่วนใหญ่ก็มักจะมูฟออนจากเขาได้และหันมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ของตัวเองจนมีความรักครั้งใหม่และบ้างก็มีความสุขกับความโสดของตัวเองจนไม่ได้ต้องการใครเข้ามาก็เพลิดเพลินกับการใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าได้ สิ่งสำคัญที่ทำให้เรามูฟออนได้มาจากการที่มูฟออนได้ คือ การที่พยายามไม่หวนกลับไปนึกถึงเขากับความฝังใจมากและให้พยายามคิดว่าเขาก็มีทางเดินชีวิตของเขาเช่นกัน สักวันเขาก็จะพบความสุขได้ แม้ว่าบางคนจะไม่ถึงขั้นลืมความรักที่มีต่อเขาก็ตามและยังคงเก็บมาเป็นแรงผลักดันดี ๆ เสมอ แต่มันอาจไม่ใช่สำหรับคนคนหนึ่งที่ต้องได้ยินเสียงของคนรักซ้ำ ๆ เดิม ๆ อยู่บ่อย ๆ แม้เวลาจะผ่านมานานแล้วก็ตาม
เรื่องเล่าผีสุดเศร้า “คอลเซ็นเตอร์จากคนไกล”

เรื่องผีสุดเศร้า “คอลเซ็นเตอร์จากคนไกล” ได้บอกเล่าเรื่องราวของคุณเอ (นามสมมุติ) ที่ย้อนกลับไปเมื่อหลายปีก่อน เขาเคยมีแฟนสาวทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์และนักประชาสัมพันธ์ที่มีความสามารถโดดเด่นของธนาคารแห่งหนึ่งในประเทศไทยจนเรียกได้ว่า ในสมัยนั้นองค์กรต่าง ๆ ที่เป็นเครือข่ายของธนาคารนี้เวลาประชาสัมพันธ์หรือให้ข้อมูลคอลเซ็นเตอร์ผ่านการโทรเสียงจากลูกค้าที่ต้องการติดต่อธนาคารก็มักจะใช้เสียงของแฟนคุณเอตลอด เพราะเธอมีการพูดที่ฉะฉานและเสียงหวานไพเราะ โดยที่คุณเอก็มีหน้าที่คอยตัดต่อเสียงที่อัดอยู่ในธนาคารเดียวกัน พวกเขาจึงค่อนข้างจะตัวติดและรักกันมาก
จนกระทั่งในวันหนึ่งขณะที่พวกเขากำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากเลิกงานกันตามปกติ ฝนก็ได้กระหน่ำตกลงมาอย่างหนักในขณะที่รถกำลังอยู่บนถนน ซึ่งคุณเอที่นั่งอยู่ฝั่งข้างคนขับก็ได้พยายามเตือนแฟนสาวว่า
“ไม่ต้องขับรถเร็วก็ได้ มันอันตราย หรือจะหาที่จอดรถข้างทางแล้วค่อยรอให้ฝนซาเม็ดลงก่อนคอยขับต่อดีไหม” แต่แฟนสาวคุณเอก็ยังคงยืนยันว่าตัวเองคุ้นชินกับการขับรถความเร็วแบบนี้มาทุกสถานการณ์อยู่แล้ว และก็กลัวว่าจะถึงบ้านมืดค่ำด้วย คุณเอจึงไม่ว่าอะไรต่อ
ทว่าขับมาได้เพียงไม่นาน จู่ ๆ รถของพวกเขาก็เกิดอุบัติเหตุชนกันอย่างรวดเร็วจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและแฟนของคุณเอก็เบรกไม่ทันทำให้คุณเอได้รับบาดเจ็บ ส่วนแฟนคุณเอก็เสียชีวิตในรถทันที
เหตุการณ์นี้ทำให้คุณเอรู้สึกเสียใจจนเอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องคนเดียวมานานจนสุดท้ายเขาก็สามารถฮีลใจตัวเองและกลับมาทำงานตัดต่อได้เหมือนเดิม ซึ่งทุกอย่างก็ปกติดี ทางองค์กรได้มีการเปลี่ยนคอลเซ็นเตอร์คนใหม่และได้ทำการอัดเสียงทุกอย่างในบริการใหม่ ๆ จนวันนั้นที่คุณเอได้รับเสียงจากคอลเซ็นเตอร์คนใหม่ที่ถูกส่งต่อมาให้ ซึ่งเขาก็ต้องทำการฟังเสียงคอลเซ็นเตอร์ก่อนเพื่อที่จะได้ดูว่ามีปัญหาตรงจุดใดหรือไม่ ทว่าเสียงที่เขาได้ยินออกมาจากเฮดโฟนกลับทำให้คุณเอทั้งตกใจและน้ำตาไหลออกมาเมื่อมันเป็นเสียงของแฟนเขาที่พูดขึ้นว่า “…บีรักเอนะ”

เพื่อนของคุณเอที่เห็นเขาร้องไห้จึงได้เข้ามาถาม คุณเอได้ให้เพื่อนฟังเสียงที่เขาได้ยินแต่ปรากฏว่า เพื่อนก็ได้ยินแต่เสียงอัดของคอลเซ็นเตอร์คนใหม่และไม่มีการพูดอย่างที่เขาบอก ซึ่งพอคุณเอฟังอีกครั้งก็ไม่มีเสียงของแฟนเขาแล้วจริง ๆ เขาจึงคิดว่าตัวเองคงคิดถึงแฟนที่เสียมากไป จึงทำงานอยู่กับเสียงนั้นต่อ แต่เวลาผ่านไปเขาก็ได้ยินเสียงอัดนี้เปลี่ยนเป็นเสียงของแฟนสาวเข้าที่แทรกเข้ามาอีกรอบเป็นคำ ๆ เดิมว่า “…บีรักเอนะ” แถมครั้งนี้ก็วนซ้ำ ๆ ซึ่งเพื่อนก็ไม่ได้ยินแบบที่คุณเอได้ยินเหมือนเดิม วันนั้นเขาจึงต้องกลับไปที่ห้องเพราะรู้สึกทำงานต่อไม่ไหว ได้แต่เศร้าว่า แฟนเขาคงจะห่วงเขาอยู่
วันต่อมา คุณเอก็กลับมาทำงานด้วยความเข้มแข็งขึ้นคิดว่าหากได้ยินอีกก็คงไม่เป็นอะไร เพราะเมื่อคืนเขาก็ได้แต่บอกกับตัวเองซ้ำ ๆ แล้วว่าจะเข้มแข็งให้ได้ แฟนเขาจะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดี ซึ่งก็มีเสียงดังแทรกขึ้นหลายครั้งจริง ๆ แต่เขาก็พยายามที่จะให้เพื่อนช่วยจนทำทุกอย่างผ่านไปได้แม้จะยากลำบากเพราะมีเขาคนเดียวที่ได้ยิน
แต่เสียงของแฟนคุณเอก็ยังคงแทรกเข้ามาเหมือนเดิมซ้ำ ๆ ไม่มีหยุดทุกครั้งที่พอมีงานใหม่มาให้เขาอัดเสียงคอลเซ็นเตอร์ผู้หญิงอีก เขาก็จะได้ยินคำว่า “…บีรักเอนะ” จนสุดท้ายมันก็ทำให้เขามูฟออนยากอย่างควบคุมไม่อยู่ คุณเอจึงได้ไปทำบุญให้แฟนจนไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลย
หลายปีต่อมา คุณเอก็ได้เปลี่ยนสถานที่ทำงานไปเป็นคนตัดต่อเสียงอัดให้แก่องค์กรอื่นซึ่งการทำงานที่นี่ก็สุขสบายดี แต่เขาก็ยังคงโสดเหมือนเดิม จนกระทั่งวันหนึ่งขณะที่เขากำลังทำการฟังเสียงอัดของคอลเซ็นเตอร์เพื่อตัดต่ออยู่นั้น เสียงที่เขาไม่ได้ยินมานานของแฟนสาวก็ดังขึ้นว่า “…บีรักเอนะ” แต่คราวนี้มันมีอีกประโยคหนึ่งเข้ามาต่อ “บีขอให้เอมีความสุข ใช้ชีวิตอยู่ให้ได้นะ เป็นกำลังใจให้เสมอ”
หลังจากนั้นเสียงของแฟนสาวเขาก็กลับมาเป็นเสียงของคอลเซ็นเตอร์ปกติทำให้น้ำตาของเขาที่ไม่ได้ไหลมานานออกมาอีกครั้ง และเขาก็ให้สัญญากับแฟนว่าจะทำให้ตัวเองมีความสุขที่สุด ขออย่าให้เธอเป็นห่วง และตั้งแต่นั้นเขาก็ไม่ได้ยินเสียงเธออีกเลย

ข้อคิดดี ๆ จากเรื่องผีสุดเศร้า “คอลเซ็นเตอร์จากคนไกล”
เรื่องผีสุดเศร้า “คอลเซ็นเตอร์จากคนไกล” มีข้อคิดดี ๆ ที่อยากบอกทุกคนว่า การที่เราเอาแต่ฝังใจกับคนที่จากไปแล้วย่อมจะทำให้เราไม่สามารถดำเนินชีวิตอยู่กับการรักตัวเองได้อย่างมีความสุขที่สุด ฉะนั้นคุณควรจะเอาอดีตมาเป็นแรงผลักดันเพื่ออนาคตและสร้างเป้าหมายให้ตัวเองทำสำเร็จให้ได้ถึงจะเป็นการทำให้ตัวเองเกิดคุณค่าแก่ชีวิต ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days