พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ หากจะกล่าวถึงประสบการณ์เรื่องเล่าสยองขวัญเกี่ยวกับ “ปอบ” ที่น่ากลัวที่สุดในหมู่คนที่เคยประสบมากับตัวเองแล้วล่ะก็ไม่ว่าใครที่อยู่ในสายชอบฟังเรื่องเล่าผีก็ต้องยกให้ประสบการณ์เรื่องเล่าที่ชื่อว่า “ยายไอ้แผน” เป็นประสบการณ์สยองที่สุดซึ่งไม่ใช่เพียงแค่ทำให้เราขนหัวลุกกันเท่านั้น แต่บางคนที่ได้ฟังก็ถึงขนาดที่ว่ารีบพากันกลับบ้านให้ทันก่อนฟ้าจะมืดและพากันปิดประตูหน้าต่างอย่างรวดเร็วเลยทีเดียวสำหรับคนตามชนบท แม้ว่าเรื่องเล่ายายไอ้แผนจะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงเมื่อประมาณปี 2006 – 2007 เท่านั้น ไม่ใช่เรื่องเล่าผีในยุคโบราณที่มีแต่ตะเกียงกันอย่างที่คนเฒ่าคนแก่หลายคนชอบฟังผ่านวิทยุสมัยยังเด็ก แต่หากคุณได้ลองฟังก็จะรู้ว่ามันมีความน่ากลัวในระดับสิบกะโหลกที่ไม่แพ้เรื่องผีคลาสสิกของคนชนบทสมัยก่อนเลย!
เรื่องผีสยอง “ยายไอ้แผน”

เรื่องผีสยอง “ยายไอ้แผน!” ได้บอกเล่าเรื่องราวจากผู้เล่าทางบ้านที่ชื่อว่า “คุณลภ” ซึ่งเมื่อก่อนคุณลภมีเพื่อนสนิทชื่อว่า แผน และ โพธิ์ ที่เป็นพี่น้องกัน โดยแผนและโพธิ์อาศัยนั้นอยู่กับยาย จนวันหนึ่งแผนเกิดไปเหยียบหอย เปลือกหอยบาดเท้าของแผนลึกมาก คุณลภและโพธิ์จึงช่วยกันพยุงแผนกลับมาที่บ้าน พอมาถึงบ้าน โพธิ์ก็อาสาจะไปซื้อยามาล้างแผล ส่วนคุณลภก็อยู่เป็นเพื่อนแผน
พอโพธิ์ออกไปได้ซักพัก แผนก็นอนหลับไป คุณลภก็ใช้ผ้าพันแผลห้ามเลือดไว้ให้ก่อน พอแผนหลับไป คุณลภก็เห็นว่ายายของแผนที่ปกติจะป่วยและลุกขึ้นไม่ได้ พูดก็พูดไม่ได้เหมือนเป็นอัมพาต อยู่ดีๆ ยายก็กระโดดลุกขึ้นมานั่งยองๆ แล้วก็มองและถามว่า เป็นอะไร ไปไหนกันมา คุณลภก็เลยตอบกลับไปว่า แผนโดนหอยบาดครับ ผมก็พยายามห้ามเลือดอยู่ แล้วยายก็เรียกคุณลภว่า ไอหนู มึงมานี่ซิ คุณลภก็เดินเข้าไปหายาย ยายก็บอกให้เข้ามานั่งนี่ แต่พอคุณลภเข้าไปใกล้ๆยาย พอยายจับตัวคุณลภ ก็ผลักตัวคุณลภออกทันที แล้วยายก็พูดไล่คุณลภกลับไปว่า ไป มึงอ่ะไป ร้อน มึงอ่ะ อยู่ร้อน ไป คุณลภก็งง อยู่มาไล่ทำไม คุณลภก็เลยบอกกับยายไปว่า เดี๋ยวรอให้โพธิ์กลับมาก่อนได้มั๊ยครับ เดี๋ยวผมห้ามเลือดให้แผนก่อน ยายก็ไม่ฟัง และก็พูดว่า มึงออกจากบ้านกูไปเลย
ตอนนั้นคุณลภก็งงว่า จะไปทำไม ตัวเองไปทำอะไรผิดหรือเปล่า หรือว่าที่พาแผนออกไปจนเป็นแผลหรือเปล่า ซักพักโพธิ์ก็กลับมา พอโพธิ์กลับมา ยายก็ล้มตัวลงนอนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอโพธิ์มาถึง คุณลภก็บอกกับโพธิ์ว่า เห้ย โพธิ์ กูกลับก่อนนะ โพธิ์ก็ถามว่า จะรีบกลับไปไหน อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนดิ ช่วยกันทำแผลก่อน คุณลภก็บอกไปว่า ก็ยายมึงไล่กู โพธิ์ก็บอกว่า มึงจะบ้ารึไง ยายกูพูดไม่ได้จะปีสองปีแล้ว คุณลภก็ยังยืนวันว่า ยายมึงลุกขึ้นมานั่งแล้วก็ไล่กู โพธิ์ก็หาว่า คุณลภพูดโกหก จะเป็นไปได้ยังไง ทุกวันนี้กูยังป้อนข้าว เช็ดตัวให้อยู่เลย แต่คุณลภก็ยังยืนยันว่า จริงๆ ยายมึงลุกขึ้นมานั่งยองๆแล้วก็ผลักกูไล่กู แล้วก็บอกว่าร้อนๆๆ โพธิ์ก็เหมือนไม่เชื่อแล้วก็บอกคุณลภไปว่า เออๆ จะไปก็ไป คุณลภก็เลยกลับบ้าน
หลังจากวันนั้น แผนก็มาโรงเรียนไม่ได้ โพธิ์ก็ต้องคอยอยู่ดูแลแผน ผ่านไป 2 วัน โพธิ์ก็มาตามคุณลภว่า ลภ ไปนอนเป็นเพื่อนหน่อยได้มั๊ย คุณลภก็ถามว่า แล้วยายมึงจะไม่ด่ากูเหรอวะ โพธิ์ก็ตอบกลับมาว่า จะด่าได้ยังไง ก็ยายกูพูดไม่ได้ คุณลภก็ยังยืนยันว่าพูดได้จริงๆ โพธิ์ยังไงก็ไม่เชื่อคุณลภ คุณลภก็ไม่ได้อะไร อ่ะๆ ไปก็ไป บ้านของแผนและโพธิ์นั้นจะเป็นบ้านไม้ 2 ระดับ ข้างล่างยายก็จะนอน ข้างบนก็จะนอนกัน 3 คน ตอนที่อยู่กับกันพร้อมหน้า ยายไม่พูดเลย เหมือนคนไม่มีแรง ปวกเปียก ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ คุณลภก็คิดว่า ทำไมยายคนนี้ทำตัวแปลกๆ
พอนอนไป แผนจะริมสุด โพธิ์ก็จะนอนกลาง คุณลภก็จะนอนริมอีกฝั่งนึง ตอนดึกคืนนั้น จู่ๆ คุณลภก็ได้ยินเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ ตรงมุ้งยาย คุณลภก็เห็นว่ายายนั้นคลานออกมาจากมุ้ง แผนและโพธิ์ก็หลับอยู่ แต่คุณลภนั้นยังไม่หลับ เพราะนอนแปลกที่ แล้วยายก็คลานออกมา มองซ้ายมองขวา ไปตรงบันได บันไดก็จะสูงประมาณ 7-8 ขั้น พอยายมองซ้ายมองขวาเสร็จ ยายก็หันมามองที่มุ้งคุณลภ และจู่ๆยายก็กระโดดลงไปเลย ไม่เดินลงบันได คุณลภก็ร้องเห้ย แล้วก็ปลุกโพธิ์ บอกว่า ยายมึงโดด ลงบ้านหวะ คุณลภคิดว่าคนแก่อาจจะละเมอ แต่ปลุกโพธิ์ยังไงก็ไม่ตื่น คุณลภก็เลยคลานออกไปดูตรงบันได ก็ไม่เจอยาย แต่พอหันกลับมาอีกที เห็นยายนอนขดอยู่ในมุ้ง ยายก็ใช้ผ้าห่มคลุมหัว ทีนี้ยายก็เปิดผ้าห่มออกมา คุณลภก็มองผ่านเข้าไปที่มุ้งยาย ก็เห็นว่า พอยายแกเปิดผ้าห่มออกมาแล้วแกก็ยิ้มให้คุณลภ คุณลภก็รีบกลับเข้าไปนอนในมุ้ง

วันถัดมา คุณลภก็เล่าให้แผนและโพธิ์ฟังว่า เมื่อคืนกูเห็นยายมึงโดดลงไป โพธิ์ก็บอก ไม่จริงอ่ะ มึงโกหก กูอยู่กับยายกูมา 2 ปี ไม่เคยลุกขึ้นได้ พูดก็พูดไม่ได้ แผนและโพธิ์ก็หัวเราะกัน หาว่าคุณลภไม่อยากไปนอนเป็นเพื่อนมัน คืนที่ 2 คุณลภก็ยังคงนอนที่บ้านของแผนและโพธิ์ เวลาตอนนั้นประมาณเที่ยงคืน คุณลภก็ได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆ คลานออกมาจากมุ้ง แต่ครั้งนี้ ยายไม่ได้โดด แต่คลานเข้ามาในมุ้งที่คุณลภนอน ยายคลานไปหาแผน แล้วก็เอาหัวโผล่เข้ามาในมุ้ง แล้วยายก็เลียแผลที่เท้าของแผน เลียใหญ่เลย คุณลภก็สะกิดโพธิ์ แต่โพธิ์ก็ไม่ตื่นเหมือนเดิม ยายก็ยังคงเลียเท้าของแผน ทั้งเลียทั้งดูด ซักพักใหญ่ๆ ยายก็หยุดเลียแล้วก็พูดขึ้นมาว่า อื้ม อร่อยดีเนอะ แล้วก็คลานกลับเข้าไปในมุ้ง
ตื่นเช้ามาโพธิ์ก็บ่นๆว่า ทำไมแขนกูเจ็บจังวะ คุณลภก็บอกว่า ก็กูหยิกมึงเมื่อคืนนี้ มึงไม่รู้เรื่องเลยหรอ โพธิ์บอกไม่รู้เรื่อง โพธิ์ก็ถามต่อว่า แล้วมึงมาหยิกกูทำไม คุณลภก็บอกว่า กูเห็นยายมึงมาเลีย แผลไอแผน โพธิ์ก็โมโหคุณลภ เหมือนว่า คุณลภไปใส่ร้ายยายมัน และพอมาดูที่แผลของแผน ก็เห็นว่า ช้ำเขียวไปหมดเลย จากทีแรก ก็แค่หอยบาดธรรมดา แต่นี่ช้ำ บวม ออกม่วงเป็นจ้ำๆเลย แผนก็ปวด ร้องใหญ่เลย ซึ่งแผนก็นอนร้องตั้งแต่เช้า ร้องว่าปวดแผลๆ คุณลภก็เลยบอกให้โพธิ์ไปตามพ่อแม่กลับมาจากไร่ โพธิ์ก็บอกว่า แล้วใครจะป้อนข้าวป้อนน้ำยาย คุณลภก็เลยบอกว่า เออ ไปตามเหอะ กูว่าไม่ดีละ แผนก็นอนร้องปวดมาก โพธิ์ก็บอกว่า ทิ้งยายไม่ได้ ต้องป้อนข้าว จนตกเย็นแผนก็นอนร้องไห้ปวด คุณลภก็เลยบอกโพธิ์ว่า มึงไปตามพ่อกับแม่มา เดี๋ยวยายมึงกูป้อนข้าวเอง
พอโพธิ์ออกไปตาม คุณลภก็กลับบ้าน คุณลภไม่กล้าอยู่ แต่ที่คุณลภกลับบ้านก็เพื่อที่จะไปบอกพ่อของคุณลภให้มาอยู่เป็นเพื่อน แต่พอกลับบ้านไปหาพ่อ พ่อก็ไม่อยู่อีก คุณลภจะทิ้งเพื่อนก็ไม่ได้ ก็ต้องกลับมาที่บ้านของแผนอีกครั้ง พอกลับมาถึง โพธิ์ก็ไปนานมาก คุณลภก็เข้าไปนอน นอนคลุมโปง 3 ทุ่มกว่า โพธิ์ก็ยังไม่กลับมาซักที ตอนที่คุณลภนอนคลุมโปงอยู่ ก็ได้ยินเสียงแผนร้อง ร้องเหมือนมีอะไรมาบีบทีคอ พอคุณลภแง้มผ้ามาดู ก็เห็นยายของแผน ขึ้นไปนั่งยองๆเหยียบหน้าอก แล้วก็ใช้มือข้างนึงช้อนใต้คอของแผนขึ้นมา จับหัวเงยขึ้น ปากก็อ้า แล้วคุณลภก็เห็นยาย เอาปากจุ่มไปที่ปากแผน แล้วยายก็ใช้ลิ้นแลบลงไป ตอนนั้นคุณลภก็ตกใจ แต่ก็ไม่กล้าที่จะวิ่งออกไป ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่แอบดูอยู่แบบนั้น แผนก็เกร็งๆอยู่ซักพักก็นิ่งไปเลย
สักพักใหญ่ๆ ก็ได้ยินเสียงพ่อแม่ของโพธิ์กลับมา คุณลภก็เห็นยายกระโดดลงไปจากตัวแผน แล้วก็กลับไปนอนเหมือนเดิม คุณลภก็เลยเล่าให้ทุกคนฟังว่า เห็นยายลุกขึ้นมาเหยียบหน้าอกแผน แล้วก็เอาลิ้นลงไปในปากแผน พ่อของโพธิ์ก็ด่าคุณลภว่า มึงพูดอะไรมึงพูดอะไร แล้วพ่อก็จับแผนเขย่า ทำยังไงก็ไม่ตื่น เพราะว่าแผนตายไปแล้ว คุณลภก็เสียใจ ซึ่งถ้าคุณลภตะโกนหรืออะไรซักอย่าง ยายก็น่าจะตกใจและกระโดดออก แต่คุณลภก็ไม่ตะโกนออกมา เพราะความเป็นเด็ก ก็เลยกลัว พ่อแม่ของแผนก็พยายามถามคุณลภว่ามันเป็นอะไรตาย คุณลภก็เล่าให้ฟังเหมือนเดิมว่าเห็นยายขึ้นมาเหยียบหน้าอกและใช้ลิ้นล้วงลงไป ซึ่งถ้าพูดออกไปแบบนี้ ยังไงก็ไม่มีใครเชื่อ
หลังจากนั้น โพธิ์ก็มาเล่าให้คุณลภฟังว่า พ่อแม่เอาศพของแผนไปชันสูตร แผนขาดอากาศหายใจ คุณลภก็บอกว่า จะขาดอากาศหายใจได้ยังไง ก็แค่เป็นแผลที่เท้า พอผ่านไป 7 -8 วัน พ่อของแผนและโพธิ์ก็จับพิรุธยาย ตอนดึกๆพ่อก็จะไม่นอน รอดูพฤติกรรมของยาย ปรากฏว่า ก็เห็นอย่างที่คุณลภพูดจริงๆ คือเห็นยายโดดลงจากบ้านไปจริงๆ พ่อของโพธิ์ก็เริ่มเห็นทุกคืนๆ ก็เลยไปปรึกษากับพระ พระก็บอกว่า จริงๆยายอ่ะตายมาตั้งนานแล้ว แต่ว่ามันมีปอบแฝงอยู่ในร่างของยาย พอรู้แบบนั้นก็หาหมอที่ทำเกี่ยวกับพวกคุณไสยมาดูยายแล้วก็ใช้ว่านชนิดนึง เขาบอกว่า ลองจิ้มดูซิ ปรากฏว่า ยายนี่ร้องเลย แล้วเขาก็พูดต่อว่า ต้องตัดกรรมนะ ถ้าไม่ตัดกรรมก็ไม่ตายซักที ก็จะอยู่กินลูกกินหลาน กินคนอื่นไปแบบนี้ พอทำพิธีตัดกรรมไปแล้ว ยายก็เสียวันนั้นเลย พอเสียปุ๊ปก็ส่งกลิ่นเหม็นเน่าทันทีเลย แล้วที่คุณลภรอดมาได้ก็อาจจะเป็นเพราะตะกรุดช่วยไว้ทำให้ทั้งคู่ต่างก็โล่งใจและตอนนี้คุณลภกับโพธิ์ก็ได้ไปทำงานคนละที่กันแล้ว แต่ความทรงจำนี้ก็จะเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่มีวันลืมเลย เพราะพวกเขาได้สูญเสียคนที่รักถึงสองคนด้วยกัน คือ ยายของโพธิ์และแผน

ข้อคิดจากเรื่องผีสยอง “ยายไอ้แผน!”
เรื่องผีสยอง “ยายไอ้แผน!” ได้ให้ข้อคิดว่า การใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมเก่าแก่หรือความเชื่อโบราณ เราย่อมต้องมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่บูชาเพื่อช่วยให้เราใช้ชีวิตอยู่ในท้องถิ่นได้โดยไม่มีสิ่งไม่ดีใด ๆ มาย่างกราย เพราะยิ่งเป็นชุมชนที่มีความเชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติเคร่งครัดมากเท่าไหร่ เราก็ย่อมเลี่ยงบางบ้านที่มีการเล่นคุณไสยดำหรือมีการเลี้ยงผียากขึ้นเท่านั้น ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days