กุมารทองที่ทุกบ้านต่างกลับไหว้บูชาอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่ความเชื่อในศาสนาพุทธ แต่เป็นความเชื่อเรื่องผีและไสยศาสตร์ที่พูดต่อๆกันมาว่า การเลี้ยงกุมารทองจะช่วยนำพาโชคลาภและคุ้มภัยให้แก่ผู้เลี้ยงดู โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้น กุมารทองมีที่มาจากการที่หมอผีไปขุดศพเด็กทารกที่อยู่ในท้องแม่ตายทั้งกลมขึ้นมาจากป่าช้า แล้วนำไปเผาจนไหม้เกรียมดำทั้งตัวก่อนรุ่งสาง จากนั้นก็นำลิ่มทองแปะทั่วตัวเด็ก จนทั้งร่างเป็นสีทอง เป็นที่มาของชื่อกุมารทองนั่นเอง แต่ด้วยปัจจุบันการทำเช่นนั้นผิดต่อศีลธรรมและกฎหมาย ทำให้การสร้างกุมารทองเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย โดยกุมารทองสมัยนี้มักสร้างขึ้นมาจาก ต้นไม้ใหญ่ที่ยืนตาย ซึ่งเชื่อว่ามีภูตผีและเทวดาสิงสถิตอยู่หรือสร้างจากวัตถุดิบอย่าง ดินเจ็ดป่าช้า ไม้รักซ้อน ไม้มะยม หรือโลหะ โดยบางคนเชื่อว่าหากสร้างด้วยพลาสติกวิญญาณจะไม่สิงสถิตอยู่ในนั้นและผ่านไป เมื่อสร้างเสร็จแล้วผู้มีอาคมจึงนำมาปลุกเสกตั้งจิตเรียกวิญญาณเชิญเข้ามาในกายหยาบนั้น
สิ่งที่ควรทราบก่อนตัดสินใจเลี้ยงกุมารทอง
การสร้างกุมารทองนั้นแท้จริงไม่ยากเพียงแค่นำตุ๊กตาหรือหุ่นปั้นมาวางไว้หน้าบ้าน จากนั้นตั้งจิตอธิฐานเรียกให้ดวงวิญญาณเข้ามาสิงสถิต โดยกล่าวว่าหากใครยอมมาอยู่ในหุ่นปั้นจะเลี้ยงดูบูชาอย่างดี ส่วนใหญ่พวกวิญญาณที่หิวโหยก็อยากได้ส่วนบุญและการเลี้ยงดูบูชาจากมนุษย์อยู่แล้ว จึงไม่ยากหากต้องการเลี้ยงผีซักตัว แต่การปลุกเสกกุมารทองนั้นแตกต่างจากผีปกติ โดยกุมารทองจะแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ กุมารทองเทพและกุมารทองพลาย ทั้งสองประเภทนี้จะมีลักษณะนิสัยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แน่นอนว่าวิธีบูชาและเลี้ยงดูจึงแตกต่างกันด้วย กุมารทองเทพจะเป็นการเรียกวิญญาณของเทพ เทวดา ลงมาสถิตในหุ่นปั้น ขึ้นอยู่กับบุญบารมี คาถาอาคมของผู้ที่เรียกด้วยว่าจะได้วิญญาณเทพที่ทรงพลังแค่ไหน ดังนั้นหากไม่มีบุญจริงคนปกติไม่สามารถสร้างกุมารทองเทพได้ โดยกุมารทองเทพนั้นจะมีลักษณะนิสัยที่ดี หากใครเลี้ยงแล้วอยากให้ปรากฏตัวก็ลืมไปได้เลย เพราะกุมารเทพจะถือศีลไม่ยุ่งเรื่องของทางโลก นิสัยเงียบไม่ชอบแสดงตัวจนบางครั้งทำให้ผู้เลี้ยงสงสัยว่ายังอยู่ด้วยหรือเปล่า ของที่ถวายเป็นอะไรก็ได้ที่เด็กชอบ อาหารและน้ำเปลี่ยนทุกวันพระ ไม่รับประทานของดิบ อีกทั้งจะขอให้ช่วยในเรื่องผิดศีลก็ไม่ได้ ผู้เลี้ยงต้องเป็นคนดีไม่เช่นนั้นกุมารอาจหนีไป แต่ถ้าหากเป็นสายพลาย จะแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยกุมารพลายนั้นจะเกิดจากการเรียกผีเด็กเข้ามาในหุ่นปั้น นิสัยยังคงมีความรัก โลภ โกรธ หลงเหมือนมนุษย์ตามปกติ ชอบสำแดงพลังฤทธิ์เดช หากทำให้ไม่พอใจก็จะนำภัยพิบัติมาให้ผู้เลี้ยง อีกทั้งยังไม่ถูกกับเด็ก ส่วนของที่นำมาถวายก็ชอบของดิบและของที่เด็กเด็กชอบ ผู้เลี้ยงต้องเป็นคนรักษาคำพูดหากรับปากว่าจะให้น้ำและขนมเมื่อไหร่ ตั้งแต่ตอนเริ่มเลี้ยงก็ต้องทำเป็นประจำเช่นนั้นอยู่สม่ำเสมอห้ามขาด กุมารพลายมีข้อดีอีกอย่าง คือ หากเลี้ยงดีจะยอมทำตามคำสั่งทุกอย่าง
หากใครมีกุมารทองแล้วอยากปลดปล่อย ขอเตือนว่าอย่านำไปให้คนอื่นเช่าบูชาต่อหรือทิ้งขว้างตามทาง วิธีที่ถูกต้องคือพูดกับกุมารทองตรงๆว่า อยากปลดปล่อยให้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า โดยวิธีปลดปล่อยมีอยู่สองแบบ คือ นำไปฝังดินหรือลอยน้ำ เมื่อปลดปล่อยแล้วต้องหมั่นทำบุญรักษาศีล อุทิศส่วนกุศลให้ประจำเพื่อให้กุมารทองได้จากไปอย่างสงบในภพภูมิที่ดีกว่าเดิม
