พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ ผีย่อมจะมีอยู่ทั่วทุกที่และทั่วโลก แต่หากถามว่า หนึ่งในสถานที่ซึ่งมักจะพบดวงจิตดวงวิญญาณได้มากเป็นอันดับต้น ๆ แล้วล่ะก็ต้องยกให้เป็น “โบราณสถาน”เลย ยิ่งเป็นโบราณสถานที่มีประวัติอยู่คู่บ้านคู่เมืองมานานด้วย ยิ่งทำให้มีประวัติมากมายเกิดขึ้น ณ สถานที่แห่งนั้นซึ่งผ่านกาลเวลามาแล้วหลายยุคหลายสมัยอย่างมากจนใคร ๆ ก็ไม่อาจนับได้สำหรับบางที่ แต่หนึ่งในโบราณสถานที่น่ากลัวมากที่สุดของโลกสำหรับสายชื่นชอบเรื่องผีแล้วล่ะก็แน่นอนว่ายังไม่มีโบราณสถานแห่งใดของโลกที่โค่นตำแหน่งความหลอนและสยองขนหัวลุกได้เท่ากับ “ปราสาทเอดินบะระ” เลย เอ๊ะ! แต่พอพูดถึงสถานที่นี้หากใครที่เป็นสายท่องเที่ยวก็อาจจะเกิดความงุนงง เพราะเอดินบะระเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของสก็อตแลนด์ที่ใคร ๆ ก็มาเที่ยวกันเลยนะ ไม่ได้เป็นปราสาทรกร้างที่น่าจะมีผีอยู่เยอะเหมือนอย่างโบราณสถานแห่งอื่น แต่คุณรู้ไหมว่าถึงปราสาท เอดินบะระ จะถูกดูแลบูรณะเป็นอย่างดีข้ามยุคสมัย แต่แท้จริงแล้วประวัติของการใช้ปราสาทแห่งนี้มีความน่าขนลุกอย่างมากเลย
ทำความรู้จักกับปราสาท “เอดินบะระ”

“ปราสาทเอดินบะระ” เป็นปราสาทเก่าแก่ที่ตั้งอยู่กลางใจ เมืองเอดินบะระ (Edinburgh) ซึ่งเป็นเมืองหลวงของสกอตแลนด์ สร้างขึ้นในช่วงยุคศตวรรษที่ 12 มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาที่ยาวนานในฐานะที่พำนักของกษัตริย์ และราชวงศ์จนถึงปี ค.ศ.1633 และเป็นค่ายทหารในศตวรรษที่ 17 โดยมีกองทหารรักษาการณ์ จัดตั้งกองกำลังทหารอยู่ที่นี่ ทำให้ปราสาทแห่งนี้กลายเป็นป้อมปราการในการต่อสู้กับข้าศึก และเลื่องชื่อในศิลปะสถาปัตยกรรมที่สวยงามอย่างมากจนใคร ๆ ก็ต้องมาเยือน โดยเฉพาะประติมากรรมของ Robert the Bruce วีรบุรุษของชาวสกอตแลนด์ เเละ William Wallace ในเหตุการณ์การปลดแอกสกอตเเลนด์ในสมัยศตวรรษที่ 14 อีกทั้งปราสาทเอดินบะระก็ยังเคยถูกปิดล้อมหลายครั้งโดยกองทัพของประเทศอังกฤษ ทำให้ปราสาทแห่งนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ที่เป็นสมรภูมิรบมากที่สุดอีกแห่งในโลกด้วยจนตามมาด้วยเรื่องราวสุดหลอนมากมายที่จะเล่ากันในหัวข้อต่อไป
ประวัติความน่ากลัวของ “ปราสาทเอดินบะระ”

“ปราสาทเอดินบะระ” อาจถูกมองว่าเป็นสถานที่แห่งเกียรติยศเพราะเคยเป็นที่พำนักของกษัตริย์สก็อตแลนด์ แต่ในอีกมุมหนึ่งที่น่ารันทดใจและสยองขวัญ คือ ปราสาทเอดินบะระยังถูกใช้ในการคุมขังนักโทษที่ทำผิดอาญาแผ่นดินและกบฏด้วยในปี ค.ศ.1296 – 1357 ซึ่งคุกก็อยู่ภายในปราสาทอีกด้วย คิดดูว่าเสียงร้องอันทรมานจากการถูกลงโทษสารพัดวิธีและยังถูกคุมขังในที่แคบ ๆ จะน่าโหยหวนแค่ไหนสำหรับคนที่อยู่ในปราสาททุกวัน ไม่เพียงเท่านั้น ช่วงที่สก็อตแลนด์เกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ ถนนโดยรอบปราสาทเอดินบะระก็ยังถูกใช้เป็นที่ฝังศพของผู้ตายจากโรคระบาดด้วย เพราะมีสภาพแวดล้อมเป็นที่ราบสูงกึ่งภูเขามากมาย จึงไม่ต่างกับปราสาทกลางสุสานเลย และในปี ค.ศ.1537 หญิงที่มีนามว่าLady Glamis ก็ได้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดและมีการจับเธอเผาทั้งเป็นต่อหน้าลูกชายของเธอเองที่หน้าปราสาทด้วยจนกลายเป็นตำนานความสยดสยองคูณสองที่รวมกันเป็นปราสาทเอดินบะระในวันนี้
ประสบการณ์เจอผีที่ “ปราสาทเอดินบะระ”

“ปราสาทเอดินบะระ” มีเรื่องเล่าปากต่อปากของนักท่องเที่ยวและผู้ดูแลที่ได้มาปราสาทแห่งนี้บอกขานประสบการณ์สุดหลอนมากมาย ทั้งเรื่องของวิญญาณที่มีคนพบในห้องโถงทางเดิน มีผู้พบเห็นผีไร้หัว หรือวิญญาณของสุนัขที่เร่ร่อนอยู่บริเวณสุสาน ไปจนถึงนักท่องเที่ยวที่มีเซ้นส์ก็เห็นผีมากมายแต่งกายด้วยชุดย้อนยุคอยู่ตามทางเข้าด้านนอกปราสาทเยอะแยะมากจนแทบหนาแน่นไปหมด ไม่เห็นถนนเลย ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days