พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ สวัสดีทุกคนที่เข้ามาอ่านบทความกันวันนี้…ก่อนหน้าที่คุณจะได้อ่านเรื่องเล่าของเรา เราขอถามก่อนว่า “คุณเชื่อเรื่องวิญญาณและภูตผีมากน้อยแค่ไหน?” เพราะเรื่องที่เราจะเล่าให้อ่านกันวันนี้ อาจเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับใครหลาย ๆ คนที่อาจคิดว่า ผีต้องมาจู่โจมหลอกเรา แต่ความจริงแล้ว…ผียังสามารถ “แฝงร่างของมนุษย์”ได้ด้วยหากว่าร่างกายของมนุษย์ช่วงนั้นมีความอ่อนแอหรือเป็นช่วงที่ดวงตก ซึ่งเรื่องที่เราจะมาเล่าก็เป็นประสบการณ์ตรง “วิญญาณตามแฝง” ของ “ผู้เขียนบทความเอง” และมันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อต้นเดือนกันยายนของปี 2566 ที่ผ่านมานี้เอง! ซึ่งเราก็หวังว่า เรื่องเล่าจากประสบการณ์นี้จะเป็นบทเรียนให้แก่คนอื่น ๆ ได้
เรื่องเล่าจากประสบการณ์ “วิญญาณตามแฝง”

ประสบการณ์วิญญาณตามแฝง เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของเราที่เป็นผู้เขียนบทความเอง ขอเรียกแทนตัวเองด้วยชื่อเล่นว่า “แทม”นะคะ แทมเป็นคนจังหวัดชัยนาทค่ะ ทำอาชีพหลัก คือ เป็นนักเขียน Content Writer และ มีงานเสริม คือ งานหมอดู ซึ่งงานหมอดูก็ทำมาได้ 2 ปีแล้ว ปกติแล้วก็จะมีลูกดวงที่มาดูดวงทั้งเรื่องทั่วไปอย่างการเงิน การงาน ความรัก สัตว์เลี้ยง ไปจนถึงเรื่องสิ่งศักดิ์สิทธิ์กับสิ่งลี้ลับ ซึ่งด้วยความที่แทมมีญาณจิตสัมผัสด้านสิ่งลี้ลับซึ่งสามารถติดต่อสื่อสารกับอีกภพภูมิได้ทำให้ระยะหลังมีคนมาขอดูดวงเจาะลึกสิ่งลี้ลับกับแทมเยอะ เคสยากบ้างง่ายบ้าง แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไร บางครั้งแทมก็มักจะเห็นนู่นได้ยินเสียงนี่บ้างหากมีดวงจิตอยากติดต่อสื่อสาร แทมจะไม่เหมือนคนที่มีเซ้นส์ทั่วไปที่สามารถมองเห็นทุกอย่างได้ขนาดนั้น เรียกได้ว่าถูกผู้ดูแลจำกัดขอบเขตไว้
จนกระทั่งช่วงต้นเดือนกันยายน ในวันอาทิตย์ แทมกับครอบครัวก็ได้มีโอกาสเดินทางไปที่คาเฟ่แห่งหนึ่งในจังหวัดอุทัยธานี ซึ่งเข้าไปแล้วต้องบอกว่าธรรมชาติข้างในร่มรื่นมาก เหมือนอยู่อีกโลก ทุกอย่างดูเงียบสงบ แม้บางช่วงแทมจะแอบรู้สึกเหมือนมีใครจับจ้องมองตอนเดินออกมาถ่ายรูปคนเดียวแต่ด้วยความที่แทมขออนุญาตเจ้าที่ตรงศาลพระภูมิก่อนจะเข้ามาขอถ่ายรูปและเราก็มาดีจึงคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร พอเสร็จจากที่นี่พวกเราก็ไปไหว้พระก่อนจะกลับมาถึงบ้านที่ชัยนาทช่วงเย็น ๆ ก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แค่วันนั้นช่วงขากลับ เราจะรู้สึกหงุดหงิดกับเรื่องรอบตัวทุกอย่าง แต่ก็คิดว่าน่าจะเป็นเพราะตัวเองเพิ่งเป็นประจำเดือนเลยอาจอารมณ์แปรปรวนเป็นเรื่องปกติ แต่ก็แปลก เพราะปกติที่ตัวเองเป็นประจำเดือนก็ไม่เคยมีอารมณ์แบบนี้เลยสักครั้ง
วันจันทร์แทมก็ทำงานตามปกติไม่มีอะไร จนมาถึงวันอังคารช่วงบ่าย ระหว่างแทมพิมพ์งานจู่ ๆ ก็เกิดครั่นเนื้อครั่นตัวขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย จากที่เมื่อกี้ยังดี ๆ อยู่เลย แถมไม่กี่นาทีอาการไข้ก็เริ่มมาจนเราต้องรีบทำงานให้เสร็จและมานั่งพักข้างนอก เพราะคิดว่าอากาศอาจจะร้อน แต่พอผ่านมา 1 ชม.ก็รู้สึกระคายคออยากไอ ตรวจ Covid-19 ก็ขึ้นขีดเดียว ไม่เป็นอะไร
วันนั้นเลยกินยาแล้วเข้านอนเพราะเริ่มมีอาการปวดหัวข้างเดียวแบบไมเกรนเลยคิดในใจว่า อะไรเนี่ย เป็นไข้ด้วย เป็นไมเกรนด้วย ก็กินยาครบสูตรเลยสิ แต่ปรากฏว่า กินยาไมเกรนไปก็ไม่หายเหมือนที่เคย แถมตื่นมาอีกวัน ไข้ก็ยังมีอยู่เลยงดทำงานแล้วพักผ่อนทั้งวัน ทีนี้อาการไข้กับไมเกรนมาตอนบ่ายอีก คราวนี้เหมือนอาการปวดหัวไม่น่าจะใช่ไมเกรนแล้วเพราะมันปวดทั้งสองข้างแบบร้าวและปวดที่ท้ายทอยอีกด้วย กินยายังไม่หายเหมือนเดิม แบบเหมือนจะดีขึ้น แต่ 1 ชม.ต่อมาก็มีอาการอีก แต่พอมาถึงช่วงบ่าย 3 ก็เริ่มดีขึ้นแต่เราก็ยังกินยาพาราอยู่ จนมาถึงช่วงตี 2 นิด ๆ ก็สะดุ้งเพราะเกิดอาการหนาวสั่นจากไข้ กินยาต่อ
วันต่อมา แทมแทบจะลืมตาไม่ไหวเลย อาการทุกอย่างยังไม่ลดลงเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ มีอาการเวียนหัวปวดเมื่อยเนื้อตัว ไอแห้ง ๆ และปวดท้องน้อยนิด ๆ แต่ประจำเดือนก็หายไปแล้วเลยแอบแปลกใจ แถมยังคลื่นไส้ ไม่อยากกินอะไรด้วย คิดว่าไม่น่าปกติแล้วจึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาล หมอก็ตรวจเบื้องต้นแล้ววินิจฉัยว่า น่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ ก็ให้ยาตัวเดิม ๆ มาอีก ซึ่งอาการก็ยังไม่ดีขึ้น แต่ที่สังเกตได้คือ ช่วงบ่าย 3 เป็นต้นไปอาการจะกลับมาดีขึ้น กินอะไรก็ได้ เดินเหินได้ปกติเหมือนไม่ได้เป็นอะไรเลยจนถึงช่วงตี 2 ก็จะกลับมาเป็นไข้เหมือนเดิม
จนวันต่อมาก็มีอาการทุกอย่างเหมือนเดิม ตรงเวลาเป๊ะ แต่ที่น่าตกใจคือ ในช่วงกลางคืนแถมมีอาการเล็บเขียวซึ่งมันจะเป็น ๆ หาย ๆ ที่บ้านก็ตกใจเลยรีบพาไปหาหมอฉุกเฉินที่โรงพยาบาล ตรวจเลือดแล้วปรากฏว่า กระเพาะปัสสาวะมีการติดเชื้อ แต่ไม่ได้รุนแรงจึงให้ยากลับไปกินรักษาตัวที่บ้าน ในใจแทมเองก็แอบคิดว่า ไอ้พวกอาการไข้แปลก ๆ มันไม่น่าจะมาจากการอักเสบของการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะอย่างเดียว แต่มันน่าจะมีบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในคำตอบอีกส่วนซึ่งหาไม่เจอ แต่ครั้นจะเข้าไปติดต่อถามสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในอีกภพภูมิเวลานี้ก็ลำบากมากเพราะตั้งแต่ป่วยก็ไม่มีแรงใด ๆ เลย
จนกระทั่งพี่สาวอีกคนที่เป็นหมอดูเหมือนกันได้โทรมาจากกรุงเทพฯ และบอกว่า “มีวิญญาณที่ตามมาจากคาเฟ่ที่อุทัย! แถมไม่ได้มาแค่ตนเดียว แต่ยกโขยงตามมาเกาะและแฝงร่างเราเลย แต่ด้วยวันที่ผ่านมาตอนสวดมนต์ เราส่งบุญให้ดวงวิญญาณต่าง ๆ ที่ต้องการบุญตลอด พอพวกเขาได้รับจึงกลับไปแล้ว” พี่หยุดพูดไปแปปนึงก่อนจะว่าต่อ “…เหลือแค่ดวงวิญญาณดวงเดียวเป็นผู้หญิงที่เขาไม่กลับไป เขากลับไม่ได้”

นี่ก็ขนลุกเลย พี่สาวก็บอกว่าช่วยได้เท่านี้ เพราะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บอกให้แทมพยายามสื่อสารกับท่านและคุยกับดวงวิญญาณนั้น แทมที่ตอนนั้นอาการก็ยังไม่หายไข้ดีนักจึงได้ใช้ไพ่ยิปซีเป็นตัวช่วยแทนการเข้าไปสื่อจิตโดยตรงกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครอง ปรากฏผลคือ “ไม่ใช่ว่าดวงวิญญาณดวงนี้กลับไปไม่ได้ แต่เขาไม่ยอมกลับไปเองต่างหาก!!!” ด้วยเพราะบ้านของแทมมีการสวดชุมนุมเทวดาและอีกภพภูมิเป็นเหมือนที่พักพิงของเหล่าดวงวิญญาณไม่มีที่ไปซึ่งได้รับการคัดกรองมาแล้วเพราะคุณแม่แทมท่านเป็นสายเมตตาและปฏิบัติธรรมที่บ้านเน้น ๆ ทำให้ดวงจิตที่ผ่านการคัดกรองสามารถอยู่ร่วมกันปฏิบัติธรรมในอาณาเขตบ้านแทมได้จนกว่าท่านจะปรับภพภูมิ บรรยากาศในภพภูมินั้นก็จะเป็นธรรมชาติ เมื่อดวงวิญญาณนี้เห็นจึงอยากมาอยู่จนกว่าจะถึงเวลาปรับภพภูมิได้ เพราะหากกลับไปที่นั่นเขาบอกว่า เขาทรมานและเหมือนถูกขังให้ผูกติดกับที่นั่นมานานแล้ว แต่ด้วยแทมเองก็มองว่า ดวงวิญญาณดวงนี้เข้ามาในอาณาเขตบ้านเราแบบผิดกฎ เขาแอบแฝงมากับร่างแทมและเป็นดวงจิตที่ไม่ผ่านคุณสมบัติเมื่อดูจะพลังงานแล้ว มันจะอันตรายต่อครอบครัวแทมด้วย ขนาดแทมที่ผ่านการเจรจากับสิ่งลี้ลับต่าง ๆ มาเยอะยังโดนหนักขนาดนี้ แล้วต่อไปตะเกิดอะไรขึ้น ยังไงก็ให้อยู่ไม่ได้ แต่ครั้นจะให้ดวงวิญญาณนี้กลับไปทรมานที่เก่าก็แอบสงสารเขา
สุดท้ายแทมจึงพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีสื่อจิตติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุ้มครองจนได้คำตอบว่า ให้นำดวงวิญญาณนี้ไปส่งที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดของเราดู เขาจะอยู่ที่นั่นอย่างมีความสุขจนปรับภพภูมิได้แน่ แทมจึงได้ทำการสื่อจิตกับดวงวิญญาณนั้นเพื่อเจรจาว่า เราจะพาเขาไปอยู่ใน “สถานที่มีความสุข” และเขาจะได้รับบุญตลอดเวลา (โดยไม่ได้บอกว่าเป็นวัด เพราะเดี๋ยวเขาจะไม่ยอมไป ) ซึ่งเขาก็ตกลง
วันต่อมา เราก็มาที่วัดจุดหมายและทำบุญถวายสังฆทานกับพระอาจารย์ในช่วงเช้าทันที ซึ่งยังไม่ทันจะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับแทม พระอาจารย์ก็ชิงถามก่อนว่า
“พาใครมาด้วยเล่านั่น”
ทุกคนถึงกับทำหน้าเหวอเป็นแถวแล้วก็ได้เล่าเรื่อง พระอาจารย์ยิ้มออกมาทันทีและพูดว่า “ก็มาเลยสิ ให้เขามาอยู่กันที่นี่ มีอาหารมีการฟังธรรมให้ครบ”
ในเวลานั้นแทมเหมือนเห็นดวงจิตของผู้หญิงคนนั้นกำลังก้มกราบพระอาจารย์ด้วยน้ำตาที่ไหลราวกับนี่คือสิ่งที่เธอรอคอยมานาน ก่อนจะหายไปหลังจากที่เราได้กรวดน้ำเสร็จแล้ว
ฉับพลันเหมือนมีเสียงบอกแทมว่า “เขามาอยู่เป็นคนของที่นี่แล้ว เดี๋ยวก็หายป่วยหนา ไม่มีอะไรแล้ว” แทมฟังเสียงนั้นอย่างยิ้ม ๆ
และวันต่อมา อาการป่วยของแทมก็หายจริง แม้จะยังอ่อนเพลียอยู่บ้าง แต่ก็กินอะไรได้ปกติและหลังจากนั้นก็กลับมาดูดวงได้เหมือนเดิม
ถือว่าเป็นประสบการณ์และเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่แทมได้ช่วยดวงจิตดวงวิญญาณซึ่งเราก็สบายใจ เขาก็มีความสุข ก็หวังว่า…ดวงวิญญาณดวงนั้นจะหมั่นปฏิบัติธรรม ชำระล้างจิตใจที่มัวหมองจากที่เก่าให้สะอาด อยู่ในศีล สมาธิ ปัญญาจวบจนได้ปรับภพภูมิในที่สุดตามที่ปรารถนา

ข้อคิดจากประสบการณ์ “วิญญาณตามแฝง”
ประสบการณ์วิญญาณตามแฝง มีข้อคิดที่เราอยากบอกทุกคนว่า คุณไม่ควรประมาทกับสิ่งลี้ลับไม่ว่าจะไปสถานที่ใดก็ตาม ยิ่งคนที่มีจิตสัมผัสและชอบปฏิบัติธรรม คุณอาจเป็นเป้าหมายในการตามขอบุญจากดวงวิญญาณในที่นั้น ๆ ได้ง่าย ควรมีการสวมสร้อยพระตลอดเพื่อป้องกัน ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days