พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ เขาว่าทางสามแพร่งเป็นจุดรวมของทางผ่านวิญญาณหรือเป็นจุดที่วิญญาณสัมภเวสีจะมารวมตัวกันเยอะเพราะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นจุดที่ไม่ดีตามหลักฮวงจุ้ยของจีนด้วย ส่วนแยกไฟแดงก็เป็นแยกที่หลายครั้งเกิดอุบัติเหตุบ่อยทำให้มีคนเสียชีวิตเยอะทั้งคนที่จะข้ามถนนและผู้ขับขี่รถด้วยกัน ทำให้เป็นอีกประเภทแยกที่มีความหลอนค่อนข้างมากเหมือนกัน จึงไม่แปลกที่บางคนจะเจอเรื่องราวผี ๆ ลี้ลับที่แยกไฟแดงด้วย แถมหากใครที่มีจิตสัมผัสเห็นแบบ Full HD ก็ยิ่งเครียดใหญ่เพราะเวลานรกอย่างช่วงจอดรถรอไฟแดงนับถอยหลังแล้วต้องเห็นผีด้วยเป็นอะไรที่เหงื่อแตกสุด ๆ ซึ่งวันนี้เราก็จะพาคุณมาหลอนไปกับเรื่องเล่าผี “แยกไฟแดงชวนหลอน”
เรื่องเล่าผี “แยกไฟแดงชวนหลอน”

เรื่องเล่าผี “แยกไฟแดงชวนหลอน” เป็นเรื่องราวของผู้เล่าท่านหนึ่งที่เป็นคนชอบไปเที่ยวกลางคืน นัดรวมเพื่อนไปกินเหล้าตามประสาวัยรุ่นทั่วไป ทุกอย่างก็ปกติ จนมีอยู่คืนหนึ่งที่ผู้เล่านัดกับเพื่อนๆ อีก 3 คน รวมผู้เล่าเป็น 4 คน ไปเที่ยวผับดังในนครปฐม พอได้เวลา พวกเพื่อนๆ ผู้เล่าก็เอารถมาจอดไว้ที่บ้านผู้เล่า แล้วใช้รถใหญ่ไปกัน วันนั้นผู้เล่าไม่ค่อยสบาย เลยขอให้เพื่อนผู้เล่าขับให้แทน พอขับไปถึงผับก็เที่ยวสนุกกันตามปกติ แต่เหตุเขามาเกิดตอนขากลับ
ตอนนั้นพวกผู้เล่าก็เมาอยู่พอสมควร เพื่อนในกลุ่มที่ชื่อ โจ้ เมาน้อยสุด เขาเลยขออาสาขับรถพากลับให้ ก็ขับกันมาจนถึงแยกไฟแดงก็จอดไฟแดงแถวนครปฐมตามปกติ ระหว่างที่จอดอยู่ ก็มีเด็กผู้ชายแต่งตัวเซอๆ มาเคาะกระจกเพื่อที่จะขายพวงมาลัย ผู้เล่าสงสารน้องเขาเลยตัดสินใจซื้อมา 3 พวง พอไฟเขียวก็ขับกันไปต่อ
จนมาเจอไฟแดงอีกแห่ง พอรถจอดไฟแดง คราวนี้มีเสียงเคาะกระจกรถอีกครับ.. พวกผู้เล่าเลยหันไปมอง และสิ่งที่เห็นคือเด็กขายพวงมาลัยคนเดิมมายืนอยู่ข้างๆ รถ! พวกผู้เล่าเริ่มใจเสียกันละครับ ทุกคนเงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไรทั้งนั้น พอไฟเขียวโจ้เขาก็รีบเร่งเครื่องออกรถทันที ระหว่างทางผู้เล่าลองหันกลับไปดู และสิ่งที่ผู้เล่าเห็นเขาทำให้ผู้เล่าต้องตกใจแบบสุดขีด ผู้เล่าเห็นเด็กคนนั้นกำลังวิ่งตามรถมาอย่างไว! สายตาโกรธแค้นดูน่ากลัว แต่ผู้เล่าไม่ได้พูดออกมา เพราะกลัวว่าพวกเพื่อนๆ จะกลัว

และแล้วรถพวกผู้เล่าก็มาเจอไฟแดงที่ 3 เป็นไฟแดงสุดท้ายครับ รถก็ค่อยๆ ไปจอดตรงไฟแดงนั้น เพื่อนคนหนึ่งที่ชื่อ ปัช ก็พูดถึงเด็กที่ขายพวงมาลัยขึ้นมาว่า ‘เวลาก็จะตี 3 แล้ว ยังมีเด็กมาเดินขายพวงมาลัยอีก…’ เพื่อนผู้เล่ายังพูดไม่ทันจบคำ จู่ ๆ ก็มีเสียงทุบกระจกอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้แรงมากๆ จนผู้เล่ากับเพื่อนๆ ต้องหันไปมอง สิ่งที่เห็นคือ เด็กคนเดิมมายืนข้างๆ รถอีกแล้ว!! คราวนี้หน้าซีดเหมือนศพเลย เล่นเอาผู้เล่ากับเพื่อนคิดว่าต้องไม่ใช่คนแล้วแน่ๆ เพราะตามมาได้เร็วเกินมนุษย์ และน้องเขาก็ยังไม่หยุดทุบนะครับ ผู้เล่ากับเพื่อนๆ ก็ไม่รู้จะเอายังไง ไฟแดงก็มีรถผู้เล่าจอดอยู่แค่คันเดียว เพราะเขาดึกแล้ว ได้แต่นั่งรอไฟเขียวพร้อมกับฟังเสียงทุบกระจกอยู่อย่างนั้น จนเพื่อนผู้เล่าที่ชื่อ เป้ เขาโมโห เลยลดกระจกลงมาหน่อย แล้วตะโกนไปว่า ‘มึงจะมาหลอกกูทำไม กูไปอะทำไรให้มึง มึงถึงต้องมาหลอกกู!!’ เท่านั้นล่ะ น้องเขาหยุดทุบกระจกทันที แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแหบหอบว่า.. ‘ผู้เล่าไม่ได้มาหลอกพี่ ที่ผู้เล่าตามมา เพราะพี่ลืมจ่ายค่าพวงมาลัยผู้เล่า!!’ ผ่าม!!!
ข้อคิดดี ๆ จากเรื่องเล่าผีแยกไฟแดงชวนหลอน

เรื่องเล่าผีแยกไฟแดงชวนหลอน ได้ให้ข้อคิดว่า ในการจะคิดกลัวสิ่งใดย่อมต้องมีสติให้ดีแล้วค่อย ๆ หาคำตอบว่าความจริงแล้วสิ่งนั้นมันน่ากลัวและส่งผลอันตรายต่อเราหรือไม่ แม้ว่าเรื่องเล่านี้จะไม่แน่นอนว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่แต่ก็เป็นข้อคิดสอนใจที่ดี ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days