พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ หากจะกล่าวถึงหนึ่งในเกาะของประเทศไทยที่นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของคนชอบเที่ยวทะเลและยังจัดว่าเป็นเกาะที่มีคนเจอเรื่องลี้ลับที่น่ากลัวจนมีเรื่องราวมาเล่าจากรุ่นสู่รุ่น รวมถึงลงในกระทู้บล็อกต่าง ๆ ทางโลกโซเชียลกันบ่อยแล้วล่ะก็ทุกคนย่อมจะรู้กันดีว่า “เกาะช้าง” เกาะดังจังหวัดตราด ก็ถูกจัดอยู่ในลิสต์ของเกาะสุดหลอนที่บรรยากาศสวยราวกับแดนสวรรค์ซึ่งใคร ๆ ก็พลาดมาเยือนกันไม่ได้เมื่อมีเวลาว่าง แต่ก็ต้องวัดดวงเหมือนกันว่าจะได้เจอดีกันที่ไหน เพราะส่วนใหญ่คนที่มีเรื่องเล่ามาก็มักจะพบเจอผีกันตามรีสอร์ตและโรงแรมทั้งนั้น แต่จะเป็นที่พักใดก็บอกไม่ได้หรอก ถึงได้บอกว่าต้องวัดดวงว่าจะไปป่ะกับที่พักที่ใช่ ห้องที่โดน และจิตที่จูนถึงกันได้หรือเปล่า ซึ่งวันนี้เราก็มีเรื่องเล่าสยอง ๆ ของผู้เล่าคนหนึ่งที่ได้เคยพบเจอผีสยองที่ “เกาะช้าง” มาแล้ว ซึ่งก็น่ากลัวไม่แพ้ประสบการณ์ของคนอื่น ๆ เลย
เรื่องเล่าสยองเจอผีที่ “เกาะช้าง”
เรื่องสยองเจอผีที่ “เกาะช้าง” เป็นเรื่องราวจากประสบการณ์ของผู้ใช้พันทิปท่านหนึ่งที่ได้เล่าเหตุการณ์ของตัวเองซึ่งเมื่อปีพุทธศักราช 2554 ผู้เล่าได้ไปเที่ยวเกาะช้าง จังหวัดตราดซึ่งเป็นบ้านเกิดของน้องที่สนิทกัน โดยมีน้องคนนั้น เพื่อน ๆ และผู้เล่าไปกันเป็นกลุ่ม ไปถึงเกาะช้างก็เย็นมากแล้ว ที่พักแห่งอื่นก็เต็มหมด จนมีคนขับรถสองแถวคนหนึ่งได้บอกว่า ลองไปพักที่ xxx ดูสิ ปกติที่พักนี้ห้องจะไม่เต็มอยู่แล้ว ถึงเต็มก็มีเต็นท์ให้เช่า ทุกคนจึงตัดสินใจไปที่พักนั้นอย่างไม่ลังเล ซึ่งพอมาถึงที่พักแห่งนี้ก็ปรากฏว่าห้องเต็มหมด จึงได้เช่าเต๊นท์ใหญ่มา1 หลัง นอนได้ 6 คนพอดี หลังจากเก็บข้าวของแล้วทุกคนก็ออกไปทำกิจกรรมการที่ชายหาด เล่นน้ำบ้าง เช่าเรือแคนนูบ้าง แต่น่าแปลกที่มีแต่กลุ่มผู้เล่าที่มาเล่นน้ำเท่านั้น ไม่เห็นมีแขกคนอื่นมาใช้บริการชายหาดของที่พักนี้เลย ทั้งที่วิวก็ออกจากสวยและชายหาดสะอาด เงียบสงบดีแท้ ๆ
หลังเล่นน้ำกันเสร็จจนค่ำ ทุกคนก็อาบน้ำแล้วก็มาปิ้งย่างรับประทานอาหารกันแบบ Outdoor ซึ่งก็พบกับความแปลกอีก เมื่อมองไปรอบ ๆ ก็ไม่เห็นมีแขกคนใดเดินไปเดินมาหรือออกมารับประทานอาหารเย็นกันเลยทั้งที่รีสอร์ตอื่นก็ดูคึกครื้นมีเพลง มีแสงสีเสียง และในวันต่อมา ทุกคนก็ขึ้นเรือล่องทริปตามเกาะต่าง ๆ มีการดำน้ำกันอย่างสนุกสนานจนมาถึงเกาะที่ 4 ผู้เล่ากับเพื่อน ๆ ก็ลงไปเล่นน้ำ บ้างก็ดื่มเบียร์กันเฮฮา แต่จู่ ๆ สายตาผู้เล่าก็บังเอิญไปเห็นผู้หญิงคนหนึ่งใส่ชุดว่ายน้ำมากับแฟน แต่ผู้หญิงมองผู้เล่าด้วยแววตาประหลาด ทว่าเขาก็ทำเป็นไม่สนใจอะไรและว่ายน้ำกันต่อ และต่อมาทุกคนก็ได้ข่าวจากคนที่ดูแลทริปว่า ตอนนี้มีที่พักอีกแห่งซึ่งหาดทรายขาวสะอาดมากเพิ่งจะว่างพอดี ทุกคนที่สนใจจึงว่าพอกลับถึงฝั่งจะทำการย้ายไปที่พักใหม่
จนเมื่อทุกคนกลับมาถึงฝั่งก็อาบน้ำล้างตัวเตรียมยกข้าวของจะย้ายที่พักใหม่ แต่จู่ ๆ เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่เป็นผู้หญิงมีอาการแปลก ๆ เริ่มคลานไปมาในเต็นท์ ตาเริ่มกลอกไปมา ไม่พูดอะไรแต่มีเสียงสะอื้นอยู่ตลอดเวลา แต่เพียงไม่นานก็หายเป็นปกติแล้วจำอะไรไม่ได้ ทุกคนจึงขนของช่วยกันเอาไปที่รถสองแถว แต่ยังไม่ทันที่จะได้ขึ้นรถ เพื่อนคนเดิมที่เมื่อสักพักมีอาการก็เดินมารั้งท้ายด้วยท่าทางแปลกราวกับจูงมือใครมาด้วยพร้อมบอกว่า
“…ให้ลุงไปด้วยลุงอยู่นี้มานานแล้วแกอยากไปด้วย”
แต่ทุกคนก็ไม่เห็นใคร บางคนก็เริ่มกลัว บางคนก็คิดว่าแกล้งกันจึงรีบพากันขึ้นรถโดยไม่พูดอะไรเพราะกำลังสับสน ซึ่งเพื่อนคนนั้นก็ขึ้นมาพร้อมพูดให้ลุงคนเดิมที่ไม่เห็นตัวตนนั่งใกล้ ๆ น้องที่สนิทกับผู้เล่าจึงรู้สึกไม่ไว้ใจและขอกล้องถ่ายรูปจากผู้เล่ามาลองถ่ายไปยังมุมนั้นก็ปรากฏเห็นเป็นรูปเงาผู้ชายครึ่งตัวจริง! น้องคนดังกล่าวจึงรีบโทรไปเล่าเรื่องที่เจอให้แม่ตัวเองฟัง และอีกฝั่งก็เน้นย้ำให้น้องคนดังกล่าวพาทุกคนกลับบ้านดีกว่าด้วยความเป็นห่วง ทุกคนที่เริ่มไม่โอเคกับบรรยากาศจึงตัดสินใจไม่ยายที่พักแล้ว แต่จะกลับบ้านเลยดีกว่า! จึงได้เปลี่ยนจุดหมายให้คนขับพาไปที่เรือเฟอร์รี่เพื่อกลับตัวจังหวัดตราด
ทันทีที่ไปถึงท่าเรือ ทุกคนก็ต้องรอเรือมาที่เกาะ เพื่อนในกลุ่มคนนึงนับคนแล้วได้ 5 คน ทั้งที่พวกเขามากันแค่ 4 คน ยิ่งทำให้ต่างคนต่างก็ขนลุก จนมีคู่สามีภรรยาคู่หนึ่งเอ่ยถามว่า “ไปพาใครมา?” พร้อมมองไปยังจุดที่ไม่มีใครยืนอยู่ ขณะนั้นอยู่ดี ๆ เพื่อนในกลุ่มคนเดิมที่มีอาการแปลก ๆ ก็ตรงเข้าไปกอดอยู่กับเสาที่คล้องเรือจนเล็บหักเลือดออก ร้องว่ากูไม่ไป ๆ พร้อมทำตาขวางตลอดเวลา คู่สามีภรรยาคู่นั้นเห็นแล้วรู้ว่าอีกฝ่ายน่าจะถูกผีสิงจึงรีบเอาพระที่คอตนไปทำอะไรสักอย่างที่เพื่อนคนนั้น แต่กลับไม่ได้ผล อีกทั้งยังเริ่มร้องหนักมากกว่าเดิม จนกระทั่งเรือมาถึง ทุกคนก็พากันเข้ามาจับอีกฝ่ายมัดเพื่อจะให้ขึ้นเรือ แต่ก็ไม่มีใครเอาอยู่สักที่ เพราะพลังของเพื่อนผู้หญิงคนดังกล่าวมีเยอะมากจนคนอีก 3 คนก็เอาไม่อยู่ กว่าจะได้จับขึ้นเรือก็นานพอสมควร
ทันทีที่มาถึงฝั่งจังหวัดตราด ทุกคนคิดว่าควรจะรีบกลับให้ถึงบ้านตัวเองที่อยู่กรุงเทพจะดีที่สุด เพราะหากยังอยู่ต่างจังหวัดอาจไม่ช่วยอะไรในเมื่อเพื่อนพูดไม่รู้เรื่องแบบนี้ ดังนั้นเมื่อลงถึงฝั่งตราด แม่ของรุ่นน้องผู้เล่าที่มารอรับก็ได้รู้เรื่องและเอาพระคล้องคอให้เพื่อนคนนั้นทำให้อีกฝ่ายร้องอีกครั้ง หลังจากที่มาถึงบ้านของรุ่นน้องก็ได้บอกลากัน รุ่นน้องก็เข้าบ้านตัวเอง ส่วนผู้เล่ากับเพื่อนคนอื่นก็นั่งรถเดินทางกลับกรุงเทพทันที ระหว่างนั้นก็มีทั้งเรื่องแปลกมากมาย ตั้งแต่กระจกด้านขวามือด้านหลังที่เปิดเอง เพื่อนคนเดิมที่ต้องทุกคนด้วยแววตาดุดันมาตลอดทาง ทว่าเห็นแต่ตาขาว มือก็คล้ายกับจะเปิดประตูรถกระโดดตลอดเวลา จนสุดท้ายจู่ ๆ ก็หายไปเองเมื่อประตูด้านหลังเปิดอีกครั้ง เพื่อนคนดังกล่าวก็นอนหลับ พอตื่นมาอีกทีก็จำอะไรไม่ได้เหมือนตัวเองนอนหลับมาตลอดทาง
หลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกคนจึงคิดว่า วิญญาณลุงคนนั้นคงแอบออกจากร่างแล้วลงระหว่างทางไปแล้ว ผู้เล่าจึงได้ลองสืบจนรู้ว่า บริเวณชายหาดที่พักรีสอร์ตที่พวกเขาไปเล่นน้ำกันนั้นเคยมีนักท่องเที่ยวจมน้ำตายที่ใต้ต้นหูกวางต้นนั้น! ซึ่งเพื่อนในกลุ่มคนนั้นก็คงไปจูนติดกับเขาได้พอดี
ข้อคิดจากเรื่องสยองเจอผีที่ “เกาะช้าง”
เรื่องสยองเจอผีที่เกาะช้าง ได้ให้ข้อคิดว่า ก่อนจะไปที่ไหนก็ตาม เราต้องดูให้ดีว่ามันปลอดภัยแน่หรือไม่ เพราะหากไม่ศึกษาให้ดีก็อาจจะทำให้เราได้ไปพบเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิดและพอรู้ตัวก็อาจจะทำให้คุณได้รับอันตรายจนฝังใจไปตลอดชีวิตก็ได้ ติดตามกันต่อได้ใน