พบกันอีกครั้งกับ เรื่องลี้ลับ เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวประสบการณ์หลอนนี้ย่อมที่จะเป็นคนชื่นชอบการเดินทางขึ้นเขากันมากแน่ ๆ ยิ่งเป็นคนที่ชอบการอยู่กับการเดินทางไปเที่ยวตามภาคเหนือแล้วล่ะก็คุณน่าจะรู้กันดีว่าสภาพเส้นทางถนนใหญ่ของหลากหลายจังหวัดทางภาคเหนือตอนบนมักจะเต็มไปด้วยถนนที่อยู่ราบ ๆ และถนนที่ไต่ขึ้นไปตามไหล่เขาซึ่งต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษเวลาขับรถ แม้จะมีความกว้างใหญ่ถึงสองเลน แต่ด้วยบางจุดอาจมีความลาดชันและมักจะมีก้อนหินกับก้อนดินใหญ่ ๆ หล่นลงมาในช่วงที่อากาศแปรปรวนบ่อย ๆ จึงอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้ ยิ่งเป็นช่วงกลางคืนและช่วงฤดูฝนกับฤดูหนาวด้วย หากอยู่บนพื้นที่ไต่เขาสูงแม้จะสวยงามเมื่อมองออกไป แต่ก็ทำให้ทัศนวิสัยการขับรถเลือนลางมากเหมือนกัน แน่นอนว่าถนนเลียบไล่เขาที่เต็มไปด้วยป่าไม้และทางโค้งย่อมจะต้องเคยมีอุบัติเหตุและมีดวงวิญญาณที่อยู่คู่ธรรมชาติบริเวณนั้น ๆ จำนวนมากอยู่แล้ว ฉะนั้นระวังให้ดี! บางทีอาจจะมีสักช่วงหนึ่งที่ดวงคุณอาจจะไปจูนติดกับมิติของวิญญาณเหล่านั้นระหว่างเดินทางขึ้นเขาทาง ภาคเหนือ ได้แบบผู้เล่าคนทางบ้านคนนี้
เรื่องราวประสบการณ์ “ปั๊มน้ำมันหลอนข้างทางขึ้นเขา ภาคเหนือ”
![](https://mootelooclub.com/wp-content/uploads/2024/06/image3.jpg)
รูปภาพ : https://www.beeaccountant.com/
ประสบการณ์ “ปั๊มน้ำมันหลอนข้างทางขึ้นเขาภาคเหนือ” ผู้เล่าทางบ้านได้ถ่ายทอดเรื่องราวของตัวเองกับแฟนที่ได้เดินทางขึ้นไปยังจังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือซึ่งเรื่องราวสุดหลอนเกิดขึ้นในตอนกลางดึกระหว่างที่ผู้เล่ากำลังขับรถขึ้นมาถึงถนนใหญ่บริเวณเลียบไหล่เขาที่หากลงจากเขาช่วงนี้ไปได้ก็จะถึงเขตของจังหวัดลำปางแล้วซึ่งเขากับแฟนที่นั่งอยู่เบาะข้างตกลงกันว่าจะนอนค้างคืนเอาแรงในตัวจังหวัดลำปางกันก่อน แต่ในระหว่างนั้นจู่ ๆ ตัวผู้เล่าก็รู้สึกอยากจะเข้าห้องน้ำขึ้นมากะทันหันชนิดที่ว่าทนไม่ไหวจึงพยายามเร่งขับรถเพื่อจะรีบลงจากถนนเลียบไหล่เขาให้ทันการณ์ เพราะจำได้ว่าหากลงเขาไปก็จะพบปั๊มน้ำมันใหญ่แล้ว แต่ดูเหมือนร่างกายจะไม่ฟังสมองที่เขาสั่งเมื่อขับรถไปได้สักระยะ ผู้เล่าก็เกิดทนไม่ไหว เพราะดูจาก Google Map แล้วอีกหลายกิโลกว่าจะได้ลงจากเขาจึงภาวนาในใจว่า นาทีนี้ขอให้ขับรถบนเขาแล้วเจอปั๊มน้ำมันสักปั๊มเถอะ จะเป็นปั๊มน้ำมันแบบใดก็ได้ เพราะปวดท้องหนักมาก เขาได้แต่ขับรถไปกัดฟันไปว่าหากอีกไม่กี่ร้อยเมตรยังไม่เจอปั๊มก็ต้องจอดข้างทางอย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วแม้ว่ามันจะอันตราย
สิ้นคำภาวนานั้น จู่ ๆ เขาก็เห็นแสงไฟจากป้ายปั๊มน้ำมันที่อยู่ไม่ไกลท่ามกลางป่าไม้ที่แน่นขนัดริมถนนเลียบไล่เขา ด้วยความดีใจเหมือนสวรรค์มาโปรด เขาจึงรีบตีรถไปเลนซ้ายมือสุดเพื่อที่จะเตรียมขับรถเลี้ยวเขาไปในปั๊มน้ำมันที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร แต่ทว่าก็มีรถคันหนึ่งที่ขับมาด้วยความรวดเร็วตรงเข้ามาอย่างรวดเร็วจากด้านหลังทำให้ไปตัดหน้ารถของผู้เล่ากำลังตีมายังไม่ทันถึงเลนซ้ายดีจนเขาแทบจะชะลอไม่ทัน อีกนิดก็คงเกือบชนกันแล้ว เขาจึงบีบแตรใส่รถคันนั้นที่แซงเขาไปอย่างรวดเร็วด้วยความหัวเสีย ปวดท้องก็ปวด นั่นทำให้แฟนของผู้เล่าที่หลับอยู่เบาะข้าง ๆ สะดุ้งตื่นขึ้นมาพร้อมถามว่าเกิดอะไรขึ้น เขาจึงได้เล่าเหตุการณ์เมื่อครู่ที่ชวนให้ระทึกให้เธอฟัง แต่ยังไม่ทันเล่าจบดี ผู้เล่าก็ได้มาจนเกือบถึงปั๊มน้ำมันแล้วเห็นว่ารถคู่กรณีคันดังกล่าวก็กำลังจะเลี้ยวเพื่อเตรียมจะเข้าปั๊มตรงหน้าเช่นกัน แต่อยู่ดี ๆ เจ้าของรถคันดังกล่าวก็หักพวงมาลัยรถออกจากทางเข้าปั๊มกะทันหันจบมีเสียงล้อรถเสียดทานกับถนนดัง ก่อนจะขับรถไปข้างหน้าราวกับเปลี่ยนใจกะทันหัน ทำให้ผู้เล่ากับแฟนถึงประหลาดใจกับเจ้าของรถคันดังกล่าว และตัวเองก็ขับรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันนั้นทันที ขณะที่รถจอดหน้าห้องน้ำ ทั้งสองก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมในปั๊มถึงไม่มีเด็กปั๊มคนใดอยู่เลย หากไม่เห็นว่าสภาพแวดล้อมทุกอย่างในปั๊มยังคงสะอาดและใหม่ดีก็คงจะนึกว่าเป็นปั๊มร้างแล้ว ในช่วงที่กำลังมองบรรยากาศโดยรอบอยู่ เสียงแตรรถก็ดังมาจากบริเวณหน้าทางออกของปั๊มน้ำมันซึ่งพอพวกเขาหันไปมองก็พบว่า รถคู่กรณีของผู้เล่าไม่ได้ขับออกไปแต่ยังคงจอดแล้วบีบแตรให้รถของพวกเขา จนผู้เล่าถึงกับหัวเสียอีกครั้งว่า เจ้าของรถคันนี้คงเป็นพวกวัยรุ่นชอบแกล้งป่วนรถคนอื่นยามวิกาลเล่น ๆ แน่จึงไม่ได้ให้ความสนใจใด ๆ และทำการหยิบเอาอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อใช้หลังทำภารกิจในห้องน้ำเสร็จก่อนจะลงมาจากรถก็พบว่ารถคันนั้นไม่อยู่แล้ว จึงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อปลดทุกข์ แต่ระหว่างนั้นเขาก็ได้ยินเสียงเหมือนคนเดินเข้ามาในห้องน้ำและปิดประตูในห้องที่อยู่ถัดจากเขา ผู้เล่าจึงคิดในใจว่า “โล่งอกไปที นึกว่าเขาจะอยู่ในห้องน้ำของปั๊มที่เงียบจนน่ากลัวแบบนี้คนเดียวเสียแล้ว อุ่นใจเยอะเลย” คิดจบแล้ว เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงอีกห้องหนึ่งตักน้ำราดส้วม แต่น่าแปลกที่เสียงการใช้ขันตักน้ำมันกลับเหมือนเสียงที่คนตักภาชนะใส่น้ำที่เป็นปูนแบบไม่มีน้ำอยู่เลยจึงมีเสียงแครก ๆ ดังตลอดเวลา สลับกับเสียงน้ำที่ราดส้วมดังมากจนเขามาคิดทบทวนว่า มันไม่ปกติแล้ว หากน้ำใกล้จะหมดจากภาชนะก็ต้องไม่ค่อยได้ยินเสียงน้ำที่ราดลงไปสิ แถมนึกไปนึกมา “อ้าว! ก๊อกในห้องน้ำเขาไม่ไหลนี่ โชคดีที่ห้องของเขายังมีน้ำเหลือเยอะ แต่อีกห้องไม่มีแล้วจะเอาน้ำที่ตักมาจากไหน” ว่าแล้วความหลอนจึงเริ่มเกิดขึ้นในหัวและอีกฝ่ายก็ยังตักและราดน้ำอยู่แบบนั้นจนนานเกินไปแล้ว ประจวบเหมาะกับที่เขาทำภารกิจตัวเองเสร็จพอดีจึงรีบเปิดประตูและออกจากห้องแต่ก็ต้องตกใจเมื่อประตูห้องน้ำเปิดปกติ ไม่พบใครอยู่ห้องถัดจากเขาเลย ห้องน้ำก็แห้ง! แต่ยังไม่ทันได้สงสัยอะไรมากกว่านี้ ผู้เล่าก็ได้ยินเสียงกรี๊ดจากแฟนที่รออยู่ในรถ เขาจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูรถแล้วถามไถ่แฟนที่เอามือปิดหน้าปิดตา ซึ่งอีกฝ่ายก็รีบให้เขาออกรถจากปั๊มนี้ด่วนที่สุด
![](https://mootelooclub.com/wp-content/uploads/2024/06/image2.jpg)
รูปภาพ : https://travel.kapook.com/
ทันทีที่รถวิ่งออกจากปั๊มน้ำมันมาได้ไม่นาน แฟนที่เริ่มตั้งสติได้ก็เล่าให้ฟังว่า ระหว่างรอผู้เล่าเข้าห้องน้ำ เขาก็เล่นโทรศัพท์ไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไร จนกระทั่งมีจังหวะหนึ่งที่ตาของเขาไปปะทะกับกล้องจับภาพหน้ารถแล้วเห็นว่ามีคนมากมายเป็นกลุ่มใหญ่กำลังเดินมาอย่างช้า ๆ ที่รถของตัวเอง คนเหล่านั้นสวมใส่เสื้อผ้าขาดวิ่น บ้างก็มอมแมม แต่ดูผอมโซและตัวซีดกันหมด แต่พอเธอหันมามองนอกกล้องกลับไม่พบใครจึงตกใจกรี๊ดออกมา ทำให้เขากับแฟนคิดว่า ปั๊มน้ำมันนี้ต้องไม่ปกติแล้ว จนกระทั่งรถของพวกเขาขับลงมาจากเขาก็เจอกับปั๊มใหญ่จึงคิดจะแวะพักหาอะไรดื่มกันหน่อย แล้วชะตาคงเล่นตลกกับพวกเขา เมื่อพวกเขาเจอรถคู่กรณีจอดอยู่หน้ามินิมาร์ทซึ่งเจ้าของรถที่เป็นผู้หญิงก็กำลังนั่งพักผ่อนในรถเช่นกัน บังเอิญกับที่ตรงนั้นมีช่องว่างจอดพอดี ผู้เล่าจึงได้ไปจอดรถเทียบข้างรถผู้หญิงคนนั้น และเคาะกระจกเรียกเจ้าของรถลงมาคุย ซึ่งพอเธอเห็นผู้เล่าที่มากับรถก็จำได้ทันทีจึงลงมาขอโทษพร้อมเล่าด้วยสีหน้าแตกตื่นว่า ตอนนั้นตัวเขาเองก็ต้องการเข้าห้องน้ำด่วน ๆ เหมือนกันจนเห็นว่ามีปั๊มน้ำมันตรงหน้าจึงรีบขับรถเร็วไปหน่อยเลยไม่ได้มองว่ามีรถอีกฝ่ายกำลังตีมาเลนตัวเอง แต่พอจะเลี้ยวรถเข้าไปก็ต้องตกใจเมื่อจู่ ๆ ไฟทั้งปั๊มก็ดับลงและสภาพแวดล้อมทุกอย่างในปั๊มก็ถูกปกคลุมด้วยหญ้าสูงไปหมดจนตนต้องหักพวงมาลัยกะทันหัน และเห็นด้านหลังว่ารถของผู้เล่าเข้าไปในปั๊มเฉยจึงพยายามบีบแตรเพื่อเตือนแต่ก็ไม่มีใครออกมาสักคนจึงขับรถออกมา นี่จึงเป็นประสบการณ์หลอนของปั๊มน้ำมันเลียบทางขึ้นเขาภาคเหนือซึ่งอาจจะเพราะความปรารถนาที่แรงกล้าในการหาสถานที่พึ่งยามวิกาลทำให้พวกเขาได้พบกับโลกอีกมิติที่จะจดจำตลอดไป
ข้อคิดจากประสบการณ์ “ปั๊มน้ำมันหลอนข้างทางขึ้นเขาภาคเหนือ”
![](https://mootelooclub.com/wp-content/uploads/2024/06/image1.jpg)
รูปภาพ : https://www.visa-autoshop.com/
ประสบการณ์ “ปั๊มน้ำมันหลอนข้างทางขึ้นเขาภาคเหนือ” ได้ให้ข้อคิดว่า เวลาเดินทางไปไหนยามกลางคืนที่เปลี่ยวอย่าได้ขอหรือบอกเล่าใด ๆ กับสิ่งที่อยู่ข้างทางลอย ๆ เป็นอันขาด เพราะจะทำให้คุณไปจูนติดกับพลังงานลี้ลับได้ง่าย ๆ ติดตามกันต่อได้ใน เรื่องลี้ลับ
อัพเดทข่าวสาร สาระดีๆ เพิ่มเติมที่ The7days