สายสิญจน์ เส้นด้ายคุ้มภัย

สายสิญจน์ เส้นด้ายคุ้มภัย
เครดิตภาพจาก www.th.wikipedia.org

สายสิญจน์เป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่มีความเชื่อมาจากศาสนาพราหมณ์ ทางพราหมณ์ไทยจะเรียกว่า สายธุรำ ส่วนพราหมณ์ฮินดูเรียกสายสิญจน์ว่า ยัชโญปวีต ซึ่งในสมัยก่อนพราหมณ์เป็นชนชั้นวรรณะสูง มีฐานะเป็นอาจารย์ของทุกวรรณะ แต่ละวรรณะต้องเข้าไปศึกษาฝากตัวเป็นลูกศิษย์กับพราหมณ์ โดยวิธีการฝากตัวเป็นศิษย์ พราหมณ์จะเอาสายสิญจน์ไปคล้องตัวลูกศิษย์พาดไหล่เป็นแนวเฉียง อีกทั้งสายสิญจน์ยังเป็นสิ่งที่มักจะใช้ในพิธีอันเป็นสิริมงคล ซึ่งต้องมีการพรมน้ำมนต์และสวดคาถาในพิธีควบคู่กันไปด้วย จึงเป็นที่มาของชื่อสายสิญจน์ โดยสิญจน์ แปลว่า การเทน้ำ ซึ่งในที่นี้หมายถึงน้ำมนต์ สายสิญจน์จึงหมายถึง สายที่นำมาโยงเพื่อใช้ในพิธีรดน้ำ

เครดิตภาพจาก today.line.me

การใช้สายสิญจน์ในงานบุญต่างๆ

สายสิญจน์ส่วนใหญ่จะทำมาจากผ้าดิบ หากเป็นสายสิญจน์ในงานมงคลจะใช้ทบกันเป็นเก้าเส้น หากเป็นงานอัปมงคลอย่างงานศพจะใช้เพียงสามเส้นเท่านั้น โดยการโยงสายสิญจน์นั้นต้องนำมาโยงวนที่พระพุทธรูปสามรอบ ตามเข็มนาฬิกาหรือทางขวา เมื่อครบสามรอบแล้วให้เรานำสายสิญจน์วนรอบพื้นที่ทำพิธี จนวนกลับมาที่โต๊ะหมู่บูชาเพื่อให้พระสงฆ์ถือไว้ขณะสวดทำพิธี สายสิญจน์เป็นการกั้นอาณาเขตว่าขณะนี้ในพื้นที่ภายในสายสิญจน์นั้นมีการทำพิธีศักดิ์สิทธิ์อยู่ ผู้ที่เข้ามาต้องสำรวมและระลึกถึงพระพุทธเจ้า โดยสายสิญจน์เป็นตัวแทนของเขตแดนที่ถูกผูกโยงกับพระพุทธรูป ดังนั้นจึงสามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายได้ อีกทั้งยังเป็นเครื่องเตือนใจว่าหากทำอะไรก็ต้องเกรงใจและมีจิตสำนึกบ้าง ด้วยเหตุนี้สายสิญจน์จึงถูกเรียกด้วยอีกชื่อหนึ่ง คือ สายปริตร ปริตร แปลว่า เครื่องป้องกัน สิ่งที่ไม่ควรทำต่อสายสิญจน์ เช่น การก้าวข้าม เหมือนแม่นาคในเรื่องเล่าสมัยโบราณ จึงเป็นบาปมหันต์ จะย่ำยีหรือนำสิ่งโสมมมาแปดเปื้อนก็ไม่ได้ สายสิญจน์ยังสามารถใช้วัสดุอื่นทำทดแทนได้ เช่น ผ้า ก็จะถูกเรียกว่า สายโยงแทนสายสิญจน์ แต่ก็มีผลในการใช้เหมือนกันหรือหากเป็นผ้าโยง สายโยงที่ผูกไว้ ในพิธีศพก็จะถูกเรียกว่า ภูษาโยง นอกจากนี้สายสิญจน์ยังถูกใช้โดยผู้เฒ่าผู้แก่หรือบุคคลผู้มีอาวุโสในการทำขวัญในพิธีต่างๆ เช่น งานแต่งงาน รดน้ำดำหัว หรือตอนที่ลูกหลานป่วยไข้ กลับมาเยี่ยมบ้าน ผู้เฒ่าผู้แก่ภายในบ้านก็จะใช้ด้ายมงคลคล้ายๆสายสิญจน์สีแดงผูกไว้ที่ข้อมือให้ลูกหลาน เพื่อเป็นของที่ระลึกแทนการอวยพร หากต้องการถอดก็ทำได้ แต่ตามความเชื่อแล้วควรรอสามถึงเจ็ดวัน บางคนใส่แล้วรู้สึกอุ่นใจมีขวัญกำลังใจในการใช้ชีวิตใส่ไว้เป็นปีจนกว่าสายสิญจน์จะขาดเองเลยก็มี

เครดิตภาพจาก www.thairath.co.th

ด้วยความที่สายสิญจน์นั้นเป็นของศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า พวกหมอผีจึงมักนำไปใช้ในการป้องกันตนเองจากสิ่งชั่วร้าย ผีสาง โรคภัย คุณไสยต่างๆด้วย ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความเชื่อว่าสายสิญจน์นั้นเป็นเพียงแค่ตัวแทนของพระพุทธเจ้าเท่านั้น จึงมีศักดิ์ต่ำกว่าเครื่องรางของขลังอื่นๆ ไม่ควรจะนำไปบูชาบนหิ้งให้เทียบเท่าพระพุทธรูป

#สายสิญจน์ #เครื่องราง #ความเชื่อ