อากาศสดใสได้ดั่งใจด้วยตุ๊กตาไล่ฝน

ดินฟ้าอากาศเป็นสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ แต่ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ต่างมีผู้คนมากมายพยายามจะคิดค้นสิ่งที่ทำให้ดินฟ้าอากาศเป็นไปดั่งใจได้อยู่บ่อยครั้ง ตุ๊กตาไล่ฝนก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยความเชื่อของตุ๊กตาไล่ฝนแรกเริ่มเดิมทีมาจากจีน ตามตำนานของหญิงสาวฟ้าสดใสที่มาพร้อมกับไม่กวาดปัดไล่เมฆฝนออกไป ซึ่งภายหลังถูกนำมาดัดแปลงเป็นความเชื่อแบบญี่ปุ่น โดยเรื่องเล่าของญี่ปุ่นนั้นมีความโหดร้ายอยู่พอสมควร ในเรื่องเล่าว่า มีพระสงฆ์องค์หนึ่งที่สามารถขับไร่เมฆฝนได้ จึงถูกท่านโชกุนเชิญให้ไปทำพิธีไล่ฝน แต่ทำไม่สำเร็จ โชกุนจึงตัดคอพระ เอาหัวห่อใส่ผ้าขาวและจับแขวนประจานไว้ บางตำนานก็บอกว่าพระสงฆ์องค์นั้นถูกผ้าห่อศพสีขาวห่อไว้ทั้งตัวและผูกคอแขวนประจานไว้หน้าเมือง แต่ทันทีที่ศพของพระสงฆ์ถูกแขวนฝนก็หยุดตกทันที จึงเป็นตำนานที่เชื่อต่อๆกันมาว่า หากแขวนศพของพระไว้จะช่วยไล่ฝนได้ แต่จะให้หาศพของพระมาแขวนทุกครั้งเพื่อให้ฝนหยุดตกก็ดูจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ชาวบ้านจึงทำตุ๊กตาไล่ฝนขึ้น วิธีทำและวิธีใช้ตุ๊กตาไล่ฝน ตุ๊กตาไล่ฝนหรือในภาษาญี่ปุ่น ‘เทรุเทรุ โบซุ’ เทรุ แปลว่า อากาศแจ่มใส ส่วนโบซุ แปลว่า หัวล้านหรือหมายถึงพระตามตำนาน วิธีทำตุ๊กตาไล่ฝนก็มักจะหยิบของใกล้ตัวมาใช้ อย่างของที่เป็นทรงกลมหรือจะเอาอะไรมาม้วนให้เป็นก้อนกลมๆก็ได้ แล้วเอาผ้าขาวมาห่อคลุมก้อนกลมนั้นไว้ มัดด้วยเชือกแล้วนำไปแขวนเป็นตุ๊กตาไล่ฝน และวาดหน้าตาตามใจชอบ ตุ๊กตาไล่ฝนมักจะมีบทบาทในช่วงหน้าฝน เนื่องจากในประเทศญี่ปุ่นเวลาที่ฝนตกจะตกแบบกระปิดกระปอยตลอดทั้งวัน ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทางและการตากผ้าหรือบางครั้งเมื่อมีโอกาสพิเศษ เช่น เดท ออกเดินทาง งานกีฬาสี หรืออะไรก็ตามแต่ที่ไม่อยากให้ฝนมาเป็นอุปสรรค ชาวญี่ปุ่นก็จะทำตุ๊กตาไล่ฝนแขวนดักไว้ก่อน ซึ่งก็มักจะแขวนไว้ที่บริเวณหน้าบ้าน ริมหน้าต่าง ตรงระเบียง และบอกตุ๊กตาไล่ฝนว่า ขอให้พรุ่งนี้ฝนไม่ตก หากว่าตุ๊กตาไล่ฝนทำหน้าที่สำเร็จ ก็ให้เราเอากระดิ่งมาคล้องไว้คอตุ๊กตาไล่ฝนเพื่อเป็นการขอบคุณหรือจะนำสาเกมาถวายให้ก็ได้ นอกจากทำให้ฝนหยุดตกแล้ว เรายังสามารถใช้ในทางกลับกันได้ คือใช้ตุ๊กตาไล่ฝนทำให้ฝนตก ในกรณีที่ไม่อยากไปโรงเรียนหรือชาวนาที่ต้องการน้ำในการทำนามากๆ ก็ให้แขวนตุ๊กตาไล่ฝนกลับหัวหรือเอาสีดำป้ายหน้าตุ๊กตาทำให้เสื่อมอำนาจไล่ฝน […]