ตุ๊กตาวูดู ตำนานหลอนตุ๊กตาสาปแช่ง

ตุ๊กตาวูดู ตำนานหลอนตุ๊กตาสาปแช่ง

สมัยโบราณผู้คนเชื่อว่าตุ๊กตาที่ทำเลียนแบบขึ้นมาโดยมีลักษณะเหมือนคนถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการสาปแช่งโดยเฉพาะ มีหลากหลายประเทศที่มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับการใช้ตุ๊กตาสาปแช่งผู้คน  ไม่ว่าจะเป็นหุ่นปั้นดินเผาของไทย การทำตุ๊กตาสาปแช่งของประเทศญี่ปุ่น และที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องราวของตุ๊กตาวูดู โดยตามที่ได้ยินต่อๆกันมานั้นตุ๊กตาวูดูถูกสร้างขึ้นมาแทนตัวแทนของบุคคลที่เราต้องการสาปแช่ง มักจะสร้างขึ้นมาจากฟาง ใช้เชือกมัดจนมีรูปร่างลักษณะเหมือนคน จากนั้นหมอผีจะทำพิธีปลุกเสกเพื่อผูกจิตของตุ๊กตาเข้ากับจิตของผู้ที่ต้องการจะสาปแช่ง วิธีการสาปแช่งก็เพียงแค่นำเข็มแหลมคมมาทิ่มแทงตุ๊กตา ผู้ที่ถูกสาปแช่งจะถูกผูกจิตไว้กับตุ๊กตาและรู้สึกเจ็บปวดทรมานกับการทิ่มแทงนั้น จนอาจถึงแก่ความตายได้ในที่สุด ตุ๊กตาวูดูกับตำนานที่ถูกบิดเบือน แท้จริงแล้วตุ๊กตาวูดูไม่ใช่สิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสาปแช่ง เพราะลัทธิวูดูที่สร้างตุ๊กตาวูดูขึ้นมานั้นเป็นลัทธิที่ไม่เล่นไสยศาสตร์ จะประกอบพิธีขึ้นเพื่อการปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายและรักษาผู้คนเท่านั้น การทำตุ๊กตาขึ้นมาจากฟางใช้เข็มทิ่มแทงตามที่เราเห็นนั้นมีอยู่จริงในลัทธิวูดู แต่สิ่งที่ทำขึ้นมานั้นมีจุดประสงค์เพื่อใช้รักษาโรคภัยและขับไล่สิ่งชั่วร้ายเท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็มีอีกลัทธิหนึ่งที่มีชื่อคล้ายกันจนทำให้คนเข้าใจผิดและบอกเล่าต่อกันมาแบบบิดเบือน คือ ลัทธิฮูดู เป็นลัทธิไสยศาสตร์มืดในแถบแอฟริกา ซึ่งมีการประกอบพิธีคล้ายกับลัทธิวูดู โดยจุดประสงค์ของพวกเขาเหล่านั้นทำขึ้นมาเพื่อสาปแช่งคนจริงๆ แต่จุดเริ่มต้นที่ทำให้ การปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายของลัทธิวูดูกลายเป็นการสาปแช่งนั้นเกิดจาก การใส่ร้ายของคนแถบยุโรป ที่มีอคติกับคนผิวสีและพวกชนพื้นเมือง จึงมีการบอกเล่าต่อๆกันมาว่าลัทธิวูดูนั้นเป็นแหล่งรวมของความชั่วร้ายอย่างการปลุกคนตายขึ้นมาจากหลุมศพ หรือที่เรียกกันว่าซอมบี้ รวมถึงเรื่องราวการสาปแช่งของตุ๊กตาวูดูที่แท้จริงแล้วควรเป็นตุ๊กตาฮูดูด้วย อย่างไรก็ดี การสาปแช่งด้วยตุ๊กตานั้นมีอยู่จริงในวัฒนธรรมญี่ปุ่น โดยวิธีการนั้นให้นำตุ๊กตาที่ถูกเย็บขึ้นมาจากผ้าขาวยัดนุ่นลงไปด้านใน จากนั้นให้ผ่าท้องตุ๊กตาและนำอาหารเน่า ดินเน่าและกระดาษที่เขียนชื่อคนที่ต้องการสาปแช่งลงไป จากนั้นเย็บปิดท้องตุ๊กตา ทิ้งไว้ 30 วันให้ตุ๊กตาผูกจิตกับคนที่เราต้องการสาปแช่ง จากนั้นเราจะได้ตุ๊กตาสาปแช่งมา ให้นำตุ๊กตานั้นไปทรมานตามที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเอาไปให้รถทับ ใช้กรรไกรตัดตุ๊กตา เอามีดกรีด เผาไฟ เข็มแทง จะเห็นได้ว่าตุ๊กตาวูดูนั้นเป็นเพียงแค่หนึ่งในตุ๊กตาสาปแช่งเท่านั้น ยังมีตุ๊กตาสาปแช่งตามวัฒนธรรมอื่นอีกมากมายที่ดูน่ากลัวกว่าตุ๊กตาวูดูเสียอีก โดยคนสมัยโบราณเชื่อว่า ยิ่งเรารักและผูกพันกับตุ๊กตามากเท่าไหร่ ก็มีโอกาสที่ความรู้สึกนึกคิดของเราจะเข้าไปอยู่ในตุ๊กตาจนทำให้ตุ๊กตามีชีวิตได้มากขึ้นเท่านั้น รากฐานความเชื่อในเรื่องนี้เองที่ก่อให้เกิดของศักดิ์สิทธิ์ต่างๆอย่างกุมารทอง ลูกเทพ และการบูชาหุ่นปั้นต่างๆขึ้นมาอีกด้วย […]

ปอบผีฟ้า วิญญาณที่คอยช่วยเหลือผู้ที่สืบทายาท

ปอบผีฟ้า วิญญาณที่คอยช่วยเหลือผู้ที่สืบทายาท

ละคร หรือภาพยนตร์ชื่อดัง หรือเพลงของค่ายเพลงต่าง ๆ หลายคนอาจจะได้เคยฟัง “ปอบผีฟ้า” ซึ่งจะเข้าใจว่า “ปอบผีฟ้า” จะคอยช่วยเหลือผู้ที่ทำหน้าที่สืบทายาท และยังเผื่อแผ่ไปถึงบุคคลอื่น ๆ ที่มาขอพึ่งใบบุญปอบผีฟ้า และตามตำนานหลาย ๆ ตำนานที่เคยได้ยินได้ฟังมานั้น “ปอบผีฟ้า” จะมีความเชื่อกันในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบ้านเรา หรือทางภาคอีสานนั่นเอง และปอบผีฟ้านั้นส่วนใหญ่จะสืบทายาทโดยผู้หญิงพรหมจรรย์เท่านั้น และสืบทายาทเป็นรุ่นต่อรุ่น ต้องมีการรับขันธ์ปอบผีฟ้า มีการเลี้ยงปอบผีฟ้า และดูแลปอบผีฟ้าให้กินดีอยู่ดีไม่อดไม่ยาก ตามตำนานนั้นเมื่อมีการปล่อยปละละเลยปอบผีฟ้า ผู้ที่สืบทายาทของปอบผีฟ้านั้นก็จะมีอันเป็นไป บางรายก็จะกลายเป็นปอบ หรือเป็นผีปอบ ที่ไม่ใช่เป็นผีฟ้า  สร้างความทรมานเป็นอย่างมาก วิธีการสืบทายาทของปอบผีฟ้า  เมื่อผู้ที่จะสืบทายาทได้ถูกรับเลือกจากปอบผีฟ้า จะมีลางบอกเหตุ หรือเหตุการณ์ต่าง ๆ แสดงให้เห็นว่าปอบผีฟ้านั้นได้เลือกสืบทายาทแล้ว เมื่อยอมรับการเลือกของปอบผีฟ้า ยินยอมที่จะสืบทายาทต้องมีการทำพิธีสืบทายาทรับขันธ์เป็นเมืองคนทรงเจ้าให้กับปอบผีฟ้า เมื่อมีคนมาขอความช่วยเหลือ เช่น ขอให้รักษาโรค ขอให้แนะนำการหาของต่าง ๆ ที่หายไป ผู้ที่สืบทายาทของปอบผีฟ้า จะปฏิเสธไม่ได้เลย และจะรับอามิสสินจ้างมากมายไม่ได้ รับได้เพียงแค่พอประทังให้ชีวิตอยู่ได้ในแต่ละวันเท่านั้น และผู้ที่สืบทายาทของปอบผีฟ้านั้นต้องรักษาศีลให้มั่นคง อย่างน้อยสุดต้องรักษาศีล 5 เพื่อเป็นการอุทิศส่วนกุศลให้กับปอบผีฟ้า เมื่อผู้ที่สืบทายาทของปอบผีฟ้าประพฤติตนไม่สมควร ผิดศีลไม่ว่าจะเป็นข้อใดข้อหนึ่งในห้าข้อ อันได้แก่ การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต […]

กระหังตำนานผีไทยสุดแปลก

กระหังตำนานผีไทยสุดแปลก

กระหังเป็นผีไทยที่หลายคนต้องรู้จัก บางคนก็ชอบพูดติดปากกันว่ากระหังเป็นแฟนของกระสือ ทั้งที่แท้จริงแล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย กระหังและกระสือแทบไม่มีตำนานเกี่ยวข้องกันเท่าไหร่ อาจมีบ้างที่เล่าว่าผู้ชายได้กินน้ำลายของกระสือจะกลายเป็นกระหัง แต่ที่ทั้งกระหังและกระสือเหมือนกัน คือ จุดกำเนิดที่มาจากคนที่เรียนวิชาไสยศาสตร์มืด แล้วถูกวิชาของตัวเองเข้าครอบงำทำให้ถูกสาปเป็นผีกระหัง อีกอย่างที่เหมือนกัน คือ มันจะออกหากินของสกปรกเวลากลางคืนเท่านั้น ส่วนตอนเช้าจะคงสภาพรูปร่างมนุษย์เหมือนเดิม และกระหังตรงข้ามกับกระสือ เพราะจะมีเฉพาะผู้ชายเท่านั้นที่เป็นกระหังได้ ลักษณะเด่นของกระหัง ผีกระหังจะมีรูปร่างเหมือนมนุษย์ ที่แขนจะมีกระด้งทรงกลมติดอยู่ทั้งสองข้าง เพื่อใช้บินกระพือเหมือนปีกนก ขาทั้งสองข้างของกระหังจะหนีบสากกระเบือเอาไว้ ตามตำนานเล่าว่ากระหังนั้นมีหางขนาดเล็กอยู่ที่ก้น แต่จะใช้สากกะเบือตำข้าวด้ามยาวๆที่ขาหนีบเอาไว้เพื่อต่อเป็นหางให้ยาวกว่าเดิม เป็นการกลบปมด้อยหรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ท่อนบนจะเปลือยเปล่าส่วนท่อนล่างจะสวมใส่โจงกระเบนบางคนอาจคิดว่าน่ากลัวแบบแปลกๆ หรือจะมองว่าตลกไปเลยก็ได้ เพราะท่าทางของกระหังนั้นดูน่าล้อขันจริงๆ จนสมัยเด็กผู้เขียนยังคิดเลยว่ามีใครกลัวผีลักษณะแบบนี้ด้วยหรือ แต่หากคุณเจอกระหังเข้าจริงๆอย่าพึ่งนิ่งนอนใจไป เพราะฟันของก็ห่างนั้นมีความคมมาก และด้วยร่างกายที่กำยำทำให้กระหังมีแรงมาก หากคิดเข้าไปต่อกรอาจเป็นอันตรายได้ อีกจุดหนึ่งที่กระหังเหมือนกระสือ คือ ของที่ชอบกิน ในตอนกลางคืนกระหังจะออกล่าเช่นเดียวกับกระสือ โดยอาหารที่ดึงดูดกระหังส่วนใหญ่จะเป็นสัตว์ในเล้าที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ไม่ว่าจะเป็น หมูแพะ แกะ ไก่ เป็ด กระบือ เด็กทารกตัวเล็กๆสัตว์ป่า หรืออะไรก็ตามที่มันล่าได้ ไม่เว้นแม้แต่คน นอกจากนี้ยังชอบกินของดิบกับของสกปรกอย่างอุจาระด้วย กระหังเป็นครึ่งคนครึ่งผีตอนกลางวันเป็นคนส่วนตอนกลางคืนจะเป็นผี วิธีไล่คือให้สาดน้ำมนต์ใส่เพื่อไล่ผีออกจากร่าง ส่วนจุดสังเกตว่าใครเป็นกระหังนั้น ให้ดูที่ตาตอนโดนแสงแดด ตาของกระหังจะเป็นสีแดง และกระหังจะหวงก้นมากไม่ยอมให้ใครมาแตะ เพราะกลัวคลำเจอหาง และมักจะชอบกินของดิบๆ ในด้านของวัฒนธรรมนั้นกล่าวว่ากระหังเป็นเรื่องเล่าที่คนแต่งขึ้น […]

เมื่อจิตสุดท้ายยังอาวรณ์อยู่กับทรัพย์สมบัติ

เมื่อจิตสุดท้ายยังอาวรณ์อยู่กับทรัพย์สมบัติ

เมื่อกล่าวถึงทรัพย์สมบัติหลายคนคงจะคิดไปถึงปู่โสมเฝ้าทรัพย์ แต่บทความนี้ จะไม่ได้กล่าวถึงปู่โสมที่คอยเฝ้าทรัพย์สมบัติ เหมือนที่เคยรู้จักกัน แต่เป็นเรื่องราวของจิตสุดท้าย ก่อนที่จะตายกลายเป็นผี หรือวิญญาณ เมื่อจิตสุดท้ายของผู้ที่ถึงฆาต หรือจะไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว เมื่อจิตสุดท้ายกำลังจะหลุดลอยออกจากกายหยาบ เมื่อจิตสุดท้ายอาวรณ์อยู่กับสิ่งใด เมื่ออายุขัยดับลงแล้ว ก็จะไปตามที่จิตสุดท้ายได้อาวรณ์ดังนั้น เมื่อจิตสุดท้ายคิดถึงทรัพย์สมบัติ เมื่อสิ้นบุญร่างวิญญาณหรือ เป็นผีแล้วก็จะไปอยู่ใกล้ ๆ กับสิ่งที่จิตสุดท้ายได้อาวรณ์ ซึ่งก็มีเรื่องราวมากมายที่เป็นเรื่องในทำนองนี้ เรื่องราวของจิตสุดท้ายที่อาวรณ์อยู่กับทรัพย์สมบัติ มีเรื่องราวที่เคยได้ยินในคลื่นวิทยุหนึ่ง ที่กล่าวถึงคุณตาจอมขมังเวทย์ที่กำลังจะสิ้นอายุขัยลง ตอนนั้นจิตสุดท้ายได้อาวรณ์กับพื้นดิน แผ่นดิน ที่ดินที่ตัวเองถือครอง ถือเป็นหนึ่งในทรัพย์สมบัติที่จิตสุดท้ายได้อาวรณ์ อย่างที่เกริ่นไปแล้วเมื่อจิตสุดท้ายได้อาวรณ์ถึงสิ่งใด เมื่อตายลงแล้วก็ตามไปอยู่กับสิ่งนั้น ซึ่งไม่มีข้อยกเว้นกับคุณตาคนนี้ จิตสุดท้ายของคุณตาอาวรณ์กับทรัพย์สมบัติหรือผืนแผ่นดินของตัวคุณตา เมื่อลูกหลานจะขายที่ดิน ก็จะปรากฎวิญญาณของคุณตาตามมาหวงแหน ไม่ให้ขายผืนแผ่นดิน ทรัพย์สมบัติของตัวเองที่อาวรณ์ตามจิตสุดท้ายไว้ ไม่เพียงแต่เท่านั้น ยังส่งผลไปถึงไม่ว่าใครก็ไม่สามารถเข้าไปในที่แห่งนี้ของคุณตาในเวลาโพล้เพล้ได้เลย เพราะจิตสุดท้ายที่คุณตาอาวรณ์ไว้ ทำให้คุณตากลายเป็นผีเฝ้าสมบัติ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะอีกกี่ภพกี่ชาติที่คุณตาจะหลุดพ้นกับการเป็นผีเฝ้าสมบัติ แต่ไม่ใช่เพียงทรัพย์สมบัติแต่เพียงเท่านั้น เมื่อจิตสุดท้ายตั้งมั่นอยู่กับบุคคลใด เมื่อจิตสุดท้ายดับลง กลายเป็นวิญญาณธาตุแล้ว ก็จะเป็นผีที่คอยติดตามคนที่จิตสุดท้ายได้ปฏิพัทธ์ อาวรณ์ไว้ เพราะฉะนั้นตั้งแต่ในสมัยก่อนเก่า เมื่อคนที่จะตาย หรือวิญญาณจะออกจากร่างแล้ว เหล่าบรรดาลูกหลาน หรือญาติ ๆ มักจะนิมนต์พระสงฆ์มาสวดที่เรือน เพื่อให้คนที่กำลังจะสิ้นอายุขัยนั้นตั้งใจแน่วแน่ ให้จิตสุดท้ายตั้งอยู่กับพระธรรม ให้จิตสุดท้ายอยู่กับสิ่งที่ดีงาม […]

พระที่กลายเป็นเปรต ถึงแม้เป็นภิกษุก็เป็นเปรตได้

พระที่กลายเป็นเปรต ถึงแม้เป็นภิกษุก็เป็นเปรตได้

ต้องทำกรรมหนักเพียงใดถึงจะกลายเป็น “เปรต” ผู้เขียนบอกได้เลยว่ากรรมหนัก และมีหลายกรรมมากที่จะส่งผลทำให้ไปเกิดเป็นสัตว์นรกอย่าง “เปรต” แต่ไม่ใช่แค่เพียงมนุษย์ปุถุชนเท่านั้นที่จะเป็น “เปรต” ได้ แม้แต่นักบวช ผู้รักษาศีลอย่า “พระ” ก็สามารถเป็นสัตว์นรกที่เรียกว่า “เปรต” ได้ เป็นเพราะอะไรนะหรือ มีหลายเหตุ หลายปัจจัยมากมายนัก ก่อนอื่นเลยเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า “เปรต” นั้นเป็นอย่างไร ถ้าเคยดูละเครื่องเรื่อง “เปรตวัดสุทัศน์” ที่อดีตดาราสาวช่อง 7 หรือปัจจุบันคือสะใภ้เบียร์สิงห์ที่แสดงไว้ การด่าพ่อด่าแม่ ทำร้ายผู้มีพระคุณหรือบุพการี เพียงเท่านี้เมื่อสิ้นอายุขัยลงแล้ว ก็จะเกิดเป็นสัตว์นรกประเภท “เปรต” ได้เลยทันที ตัวจะยืดยาวสูงกว่าต้นตาล มือเท้ายาวใหญ่เหมือนใบพาย ตาโปน ไร้เสื้อผ้า ปากเล็กเท่ารูเข็ม ไม่สามารถรับบุญใด ๆ ได้ เป็นทุกขเวทนาที่น่าสังเวชยิ่งนัก พระที่กลายเป็นเปรต การที่จะเกิดเป็น “เปรต” นั้นอย่างที่เกริ่นไปว่าไม่เพียงแต่มนุษย์ปุถุชนเท่านั้นที่สามารถเกิดเป็น “เปรต” สัตว์นรกได้ แม้แต่ ผู้ทรงศีล พระหรือภิกษุ ผู้รักษาศีลอีกมากมาย ก็สามารถเกิดไปเป็นเปรตได้ ถ้าไม่เรียนรู้ถึงการให้ทาน หรือพระรูปนั้น ๆ มีความตระหนี่ถี่เหนียว […]

ตัวตายตัวแทน วิญญาณที่ต้องรับกรรม

ตัวตายตัวแทน วิญญาณที่ต้องรับกรรม

เรื่องราวของตัวตายตัวแทน คงจะมีหลาย ๆ คนเคยได้รับรู้เรื่องราวแล้วว่า “ตัวตายตัวแทน” เป็นวิญญาณที่ต้องรับกรรม เป็นตัวแทนวิญญาณรุ่นก่อน แต่ในความเป็นจริงแล้ว “ตัวตายตัวแทน” นั้น เจ้าตัวจะไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังจะเป็น “ตัวตายตัวแทน” แต่จริง ๆ แล้ววิญญาณที่จะมาเป็นตัวตายตัวแทน เราจะไม่รู้ทางรู้ได้เลยว่าจริง ๆ แล้วผู้ที่จะกำลังจะตายนั้น จะถึงแก่ชีวิตเพราะ สิ้นอายุขัยจริง ๆ หรือว่ารับกรรม ต้องตายเพื่อไปแทนใคร หรือโดนบังคับให้ตาย และทำให้วิญญาณดวงเดิมได้ปลดปล่อยพันธนา หลุดพ้นเป็นไทจากที่ต้องอยู่เฝ้าที่แห่งนั้น ส่วนวิญญาณดวงใหม่นั้นก็ต้องกลับกลายเป็นตัวตายตัวแทน เป็นวิญญาณสัมภเวสี รอการปลดปล่อยต่อไป  เรื่องเล่าตัวตายตัวแทน วิญญาณที่ต้องรับกรรม  เคยได้ยินเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งจากรายการทางวิทยุเรื่อง “ตัวตายตัวแทน” เรื่องเล่าประมาณว่า มีชายคนหนึ่งเดินทำงานเป็นพนักงานขาย ออกต่างจังหวัด และไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง สมมติให้ชายคนนี้ชื่อเอ คุณเอเข้าพักที่โรงแรมแห่งนี้เจอผู้ชายอีกคนและพูดคุยถูกคอกันมาก และได้รู้ว่าเป็นพนักงานขายพื้นที่เดียวกัน จึงแปลนทริปให้มาเจอกันที่จังหวัดนี้ในวันเดียวกัน หลายเดือนต่อมา ชายคนที่คุณเอเจอก็หายไปเป็นเวลาหลายเดือน จนคุณเอแปลกใจ พร้อม ๆ กับมีเสียงแปลก ๆ ในห้อง และข้าง ๆ ห้อง (คุณเอจะพักห้องข้าง ๆ ห้องชายคนนี้เสมอ) […]